วิธีของการลดคอเลสเตอรอล

เมื่อพูดถึงไขมันแล้วนั้นคงจะทำหน้ายี๊กันเลยใช่ไหม เพราะความรู้สึกแรกเมื่อคิดถึงไขมันคือเจ้าไขมันนี่แหละเป็นตัวที่ทำให้มีรูปร่างผิดแปลกไปจากเดิม แต่อย่างไรก็ตามไขมันนั้นก็มีสิ่งที่ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายแบบทั้งไขมันที่ดีและไม่ดี และเราสามารถจัดการกับไขมันแต่ละประเภทได้อย่างไร ที่จะทำให้ไขมันนั้นไม่ทำร้ายร่างกายของเรา

ไขมันถือเป็นเรื่องใหญ่ของคนในสมัยนี้ หากเมื่อย้อนกลับไปสมัยก่อนนั้นในยุคที่เรายังไม่มีการเปิดบ้านเมืองมากขนาดนี้ สมัยนั้นคนก็จะทานแกงส้ม แกงไตปลา กินน้ำพริก กินปลาเผา และขนมอย่างมากก็ไอติม ลอดช่อง เฉาก๊วย แลเนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและเมืองร้อนการกินแบบเมืองร้อนไม่ทำให้อ้วน เมื่อวิทยาศาสตร์ไปไกลและวิวัฒนาการไปไกลบ้านเมืองมีการเจริญเติบโตขึ้น แน่นอนว่าโลกใบนี้

แคบลงเหลือนิดเดียว อาหารฝรั่งเข้ามายังบ้านเรา ทำให้อัตราความอ้วนหรือคนอวนในบ้านเราเพิ่มมากขึ้น อาหารฝั่งนั้นไม่ใช่อาหารที่ไม่ดีแต่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับเมืองหนาวเต็มไปด้วยแคลอรี่ที่มีทั้งชีส นม เนย เต็มไปด้วยสิ่งที่เราเผาผลาญออกมาได้ยาก เมื่อเรากำลังสุกกับการกินอาหารเหล่านี้แล้วนั้นโดยไม่รู้ตัวว่าอาหารเหล่านี้กำลังค่อยๆฆ่าเราหรือค่อยๆสะสมและเพิ่มขึ้นในร่างกาย ทำให้เกิดไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูงจำนวนมาก

คอเลสเตอรอล คือสารตัวหนึ่งที่อยู่ในอาหารการกิน ในร่างกายเราก็มีคอเลสเตอรอล ร่างกายเราใช้คอเลสเตอรอลย่อยเสร็จจะกลายเป็นสองอย่าง คือ ไขมันดีและไขมันไม่ดี ไขมันไม่ดีคือไขมันที่ติดกับหลอดเลือด ทำให้เป็นหลอดเลือดในสมองตีบ อัมพาต คนเลยนิยมหันมากินยาลดคอเลสเตอรอล ส่วนข้อดีของคอเลสเตอรอลนั้นคือ เป็นตัวประกอบของผนังกล้ามเนื้อเป็นตัวสร้างตัวแรกของฮอร์โมนส์เพศ นั่นหมายถึงว่าคอเลสเตอรอลมีทั้งดีและไม่ดี

การเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดในการลดคอเลสเตอรอลนั้นคือการคุมอาหาร การกิน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยมื้อเช้านั้นควรกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณเยอะๆ เพราะมือเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ  มื้อกลางวันควรกินปริมาณปกติ เช่น ข้าว1จาน ก๋วยเตี๋ยว1ชาม เป็นต้น

และมื้อเย็นไม่ควรกินแป้ง กินโปรตีนและผักแทน และสามารถเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและยั่งยืนที่สุด ร่างกายมนุษย์นั่นควรเรียงลำดับให้ถูกต้องและไม่มีใครรักเราเท่าตัวเรา การไปหาหมอหมอทำได้เพียงการชี้แนะแต่ตัวเรานั้นต้องมีระเบียบวินัยด้วย เมื่อกินอย่างถูกต้องแล้วนั้นไขมันจะค่อยๆลดและคอเลสเตอรอลจะค่อยๆลด

และสิ่งสำคัญหนึ่งคือการออกกำลัง การคาร์ดิโอหรือการออกกำลังกายหัวใจ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน หรือจอกกิ้ง และควรทำอย่างต่อเนื่อง 30 นาที และ 5 วันต่อสัปดาห์ เพียงการคุมอาหารและออกกำลังกายก็จะสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

เกล็ดความรู้การรับประทานอาหารที่ดี

ในวงการในสมัยเดิมพวกเราในฐานะนักโภชนาการนักวิจัยโภชนาการเชื่อว่าการรับประทานอาหารมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรี่ที่เรารับประทานก็คือว่าถ้ารับประทานแคลอรี่เท่านี่1พันแคลอรี่ออก1พันแคลอรี่เราก็จะเราก็จะไม่อ้วนอันนั้นมันเป็นความคิดในสมัยเดิมๆแต่ในปัจจุบันเราพบแล้วว่าการรับประทานอาหารถึงแม้ว่าปริมาณที่เราได้รับประทานอาหารเข้าไปมันยังคงเหมือนเดิม

โดยสิ่งที่มันจะเป็นกลไกลที่ทำให้ผลของมันนั้นมันไม่เหมือนเดิมก็คืออายุของเราที่เปลี่ยนไปรูปแบบการรับประทานที่เปลี่ยนไปกิจวัตรประจำวันที่เปลี่ยนแปลไปรวมวไปถึงระยะเวลาการนอนของแต่ละที่คนเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งในวันนี้เราก็ได้ข้อมูลมาจากงานวิจัยที่ได้ทำการตีพิมพ์ในเดือนนี้วิธีในการวิจัยก็คือว่าก็ได้เอาอาสาสมัครของกลุ่มนั้นเอามาเปรียบเทียบพฤติกรรมในการรับประทานอาหารเปรียบเทียบในช่วงระยะเวลาหนึ่งรับประทานอาหารแบบเดียวกันแต่ว่ารับประทานมื้อทุกท้ายตอน6โมงเย็นแล้วก็นอนตอน5ทุ่ม

เนื่องจากเราจะนำเอามาเปรียบเทียบในช่วงเวลาอีกแบบหนึ่งของคนๆเดิมโดยจะให้เขานั้นได้รับประทานช่วงตอน4ทุ่มแล้วพอรับประทานไปซักระยะหนึ่งก็นอนในตอน5ทุ่มในระยะเวลาเดียวกันทีนี้ในการศึกษานี้ผลของการศึกษานี้มันดูน่าสนใจ

เพราะว่าผลของการศึกษานั้นมันได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเวลาที่คุณนั้นได้รับประทานอาหารดึกถึงแม้ว่าแคลอรี่มันจะเท่ากับในช่วงระยะเวลาที่คุณนั้นได้รับประทานอาหารตอน6โมงเย็นหรือ1ทุ่มแต่ระยะเวลาของคุณในการรับประทานอาหารเสร็จแล้วคุณนอนมันสั้นและมันจะมีค่าของน้ำตาลในเลือดในแต่ละช่วงเวลา

นอกจากนี้มันจะบอกได้ว่าการรับประทานอาหารที่ปริมาณเท่าๆกันในระดับของการหลั่งอินซูลินมันไม่ได้มีความแตกต่างกันแต่ว่าในระดับของค่ากลูโคสมันแตกต่างกันภาวะลักษณะนี้มันจะเกิดขึ้นในคนที่เป็นภาวะดื้อต่อออินซูลินก็คือปริมาณอินซูลินมันยังคงทำงานแต่ว่าควบคุมระดับน้ำตายไม่ดี

ดังนั้นในความหมายในนัยของงานวิจัยนี้มันก็แสงดงให้เห็นว่าถ้าช่วงระยะเวลาการรับประทานอาหารของคุณมื้อสุดท้ายก่อนที่คุณนั้นจะขึ้นนอนเพราะบางคนขึ้นนอนแล้วยังไม่ได้นอนทันทีและในช่วงระยะเวลาที่คุณได้รับประทานมื้อสุดท้ายแล้วขึ้นนอนมันค่อนข้างที่จะสั้น

ซึ่งมันจะทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายมันจะเข้าสู่ในระยะที่เราเรื่องว่าไฮเบอร์เนตหรือว่าใกล้ๆที่จะนอนหลับไปแล้วการเผาผลาญนั้นมันจะลดลงแล้วถ้ากิจกรรมเหล่านี้รับประทานดึกแล้วนอนเร็วคือช่วงระยะเวลากับการนอนมันห่างกันแค่แบบเดียวมันก็จะส่งผลทำให้คุณน้ำหนักขึ้นแล้วก็ในระยะยาวในเลือดของคุณก็จะเลี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

โรคคางทูมที่เราต้องเตือนลูกหลาน 

โรคคางทูมนั้นเป็นโรคติดต่อ ลักษณะนั้นเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ตรงคางเป็นตุ่มก้อนๆเพราะว่าเคยที่ระบาดหนักอย่างมากในค่ายทหารและโรงเรียน และก็พบมากที่สุดนั้นในเชียงใหม่   เชียงราย  ลำพูน  ภูเก็ต  แม่ฮ่องสอน  แนะพ่อแม่พาไปฉีดวัคซีนป้องกัน  เพราะว่าโรคคางทูมนั้นเป็นโรคที่เรานั้นสามารถที่ติดกันได้กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือกลุ่ม 15-24 และก็มักจะพบมากในกลุ่มนักเรียน

จังหวัดที่เรานั้นพบผู้ป่วยนั้นมาก คือ เชียงใหม่  เชียงราย  ลำพูน  ภูเก็ต  และแม่ฮ่องสอน  จากการที่เรานั้นตรวจสอบข่าวการระบาดจากฐานข้อมูล  เฝ้าระวัง เหตุการณ์ พบรายงานการระบาดของโรคคางทูมเป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ คือ ในค่ายทหาร และในโรงเรียน ในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มก้อนได้ โดยเฉพาะในสถานที่มีคนนั้นอาศัยรวมกัน หนาแน่น และพื้นที่มีครอบคลุมของการที่เรานั้นฉีดวัคซีนป้องกันโรค 

อาการของโรคคางทูม  โรคคางทูมนั้นเป็นโรคที่ติดต่อทางเดินหายใจและก็มีการที่ผัสผัสจากการที่เรานั้นกินร่วมกันของผู้ป่วย อาการของโรคคางทูมที่เรานั้นพบเห็น 

  • เริ่มจากที่เรานั้นจะมีไข้ต่ำๆ
  • ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว 
  • มีอาการที่เรานั้นเจ็บหน้าหูและขากรรไกร
  • มีต่อมน้ำลายข้างกกหูโตขึ้น
  • มีอาการที่เรานั้นเจ็บบริเวณแก้มและหู  

การรักษาโรคคางทูม  ในปัจจุบันนี้โรคคางทูมนั้นเราต้องรักษาตามอาการเพราะว่าเกิดจากการที่ขากรรไกรนั้นเกิดอาการอักเสบ บวม และเมื่อเรานั้นเป็นก็ควรที่จะหยุดไปโรงเรียนหรือว่าไปทำงาน  

คางทูมนั้นเราป้องกันง่ายๆด้วยวัคซีน  

เดี่ยวนี้ในปัจจุบันนั้นการที่เรานั้นจะเป็นโรคคางทูมนั้นเราก็ควรที่จะฉีดวัคซีนเพื่อที่จะป้องกันเพราะว่าเดียวนี้นั้นมียาป้องกันวัคซีนกันแล้วตั้งแต่เมื่อเด็กนั้นเกิดส่วนที่ใครนั้นเป็นก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการที่เรานั้นจะไปอยู่กับหมู่คนนั้นเยอะๆและก็ไม่ควรที่จะไปใช้ของร่วมกับคนอื่นเพื่อที่จะไม่ไปแพร่เชื้อโรคให้คนอื่นนั้นเป็นถ้าเป็นไปได้ในขณะที่เรานั้นเป็นควรที่จะใช้ของนั้นแยกออกเพื่อความที่จะไม่ให้คนที่อยู่ในบ้านนั้นต้องติดเหมือนกับเราอย่างเช่นเรื่องผ้าขนหนู  หรือว่าแก้วน้ำ  จานข้าว  ช้อน ส้อม อย่างนี้เป็นต้น

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงแต่ว่าการที่เรานั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อที่ไม่ให้ผู้อื่นนั้นเป็นเพิ่มหน้าจะดีกว่า เพราะว่าวัคซีนเดียวนี้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ เมื่อเด็กนั้นมีอายุ 9-12 เดือน  และก็ต้องฉีดซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 2 ปี 6 เดือน สามารถป้องกันโรคนี้ได้ตลอดชีวิต 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  alpha88

ประโยชน์ของยาสีฟัน

ยาสีฟันชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันเป็นการนำไปใช้กับแปรงสีฟันของเราโดยทำให้ฟันของเรานั้นสะอาดแต่ประโยชน์ของมันไม่ได้มีแค่นั้นนะประโยชน์ของมันมีมากกว่าที่เราเห็นกันด้วยซ้ำไปซึ่งบางคนก็ไม่รู้ว่าประโยชน์ของมันมีมากกว่าการใช้นำมาแปรงฟัน โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงการใช้ยาสีฟันทำประโยชน์อะไรได้บ้างเรียกได้ว่าถ้าคุณรู้แล้วอาจจะอึ้งเลยก็ได้

สำหรับยาสีฟันบางยี่ห้อนั้นก็มีส่วนผสมของเปปเปอร์มิ้นต์ แน่นอนแล้วว่าส่วนผสมของเปเปอร์มิ้นนี้มันจะเข้าไปช่วยหยุด การทำงานของเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้ ซึ่งหากคนใดที่เป็นสิวเท่ากับว่ามีเชื้อแบคทีเรียค่อนข้างที่จะเยอะๆ ดังนั้นหากเราพายาสีฟันลงไปบนผิวของเรานั้น โดยมันจะไปทำปฏิกิริยาต่างๆทำให้ผิวของคุณยุบลงมาได้อย่างเห็นได้ชัดซึ่งหลักการนี้ก็มีการทดลองกันแล้วนะแล้วมันก็ใช้ได้ทุกคนจริงๆ

สำหรับประโยชน์ทางด้านนี้รับรองว่าหลายๆคนมักจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าถ้าหากเราโดนน้ำร้อนลวกการนำยาสีฟันมาโปะถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เบสิคเพราะว่าหลายๆคนก็ใช้กันอยู่ สำหรับยาสีฟันนั้นที่มีรสชาติเย็น มันจะช่วยดูดในความร้อนจากแผลที่เกิดการรั่วของเราได้ดังนั้นการทานยาสีฟันเข้าไปอาจจะไปลดอัตราการอักเสบของแผลของเราได้และทำให้แผลของเราแห้งเร็วขึ้น

สำหรับบางยี่ห้อของยาสีฟันมันสามารถที่จะเข้าไปช่วยในการลดริ้วรอยได้นะถ้าหากคุณนำไปทาบางๆบริเวณที่เกิดริ้วรอยมันก็จะช่วยทำให้ริ้วรอยของคุณหายไปได้เลือกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริงๆแหละสำหรับยาสีฟัน เดือนหน้าต้องมีส่วนผสมของ Zinc ด้วยนะ จึงจะเห็นผล

แล้วคุณรู้หรือไม่ว่ายาสีฟันนั้นสามารถนำมาขัดสิวเสี้ยนบนบริเวณจมูกของคุณได้อีกด้วย มันสามารถช่วยเอาสิวเสี้ยนดำๆที่อยู่บริเวณจมูกของคุณออกไปได้เป็นอย่างดี วิธีการทำนั่นก็คือให้คุณทานยาสีฟันบริเวณจมูกที่เป็นสิวเสี้ยนนั้นจากนั้นให้ใช้แปรงที่ไม่ได้ใช้แล้วขัดบริเวณนั้นเบาๆแนะนำว่าให้เบาๆมือนะคะจะได้ไม่เกิดการอักเสบต่อจมูกของคุณ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้สิวเสี้ยนบริเวณจมูกของคุณหายไปได้อย่างพริบตา

แต่หลายคนก็มีการพูดถึงว่าการนำยาสีฟันนั้นเอามาขัดผิวของเราได้ซึ่งอันที่จริงอันนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะว่าเรายังไม่เคยทดลองกับตัวเองแต่ก็มีการพูดถึงว่าการนำยาสีฟันมาขัดผิว สะอาดเนียนยิ่งขึ้นเนื่องจากว่ายาสีฟันทำให้ฟันขาวได้ก็คงทำให้ผิวขาวได้เช่นกันละมั้ง

การใช้ประโยชน์ต่างๆจากสิ่งรอบตัวนั้นถือว่าเป็นเรื่องดีถ้าหากคุณมองหาดีๆคุณก็จะเจอประโยชน์ต่างๆโดยที่คุณจะไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองในเรื่องของสิ่งของแพงๆตามกระแสซึ่งสิ่งรอบตัวน้อยของคุณมันก็สามารถที่จะช่วยในบางเรื่องของเราได้แต่เราต้องรู้สรรพคุณของมันให้ดีแล้วจึงนำมาใช้ให้ถูกทางเท่านั้นแหละ

 

สนับสนุนโดย  9luck

การล้างจมูกอย่างถูกวิธี

เชื่อว่าหลายคนเห็นหัวข้อแล้วมักจะสงสัยว่าทำไมเราจะต้องมาเรียนรู้วิธีการล้างจมูกกัน และหลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราถึงจะต้องล้างจมูกอีกด้วยนะ ดังนั้นเราจะขยายคำว่าการล้างจมูกให้ฟังเพราะว่ามันก็คือ การทำความสะอาดโพรงจมูกของเรา ซึ่งมันจะทำให้จมูกของเรานั้นดูสะอาดขึ้นและโล่งมากขึ้น ทำให้น้ำมูกที่ติดอยู่ในโพรงจมูกของเราหลุดออกไป จะเป็นการส่งผลให้การหายใจดีมากยิ่งขึ้น

การที่เราได้ออกมาพูดนี้ก็เพราะว่าคนไทยมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างที่จะมากพอสมควร โดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นได้ว่าบ้านเมืองของเรามีแต่ฝุ่นละอองที่ค่อนข้างจะหนาแน่นดังนั้นการที่เราได้ไปสัมผัสกับฝุ่นละอองต่างๆเหล่านั้นจึงทำให้การหายใจของเราติดขัดๆซึ่งการล้างจมูกนี่แหละเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะมันจะทำให้เราหายใจสะดวกมากยิ่งขึ้นและขจัดสิ่งที่ไม่ดีออกจากโพรงจมูกของเราไปได้

อันที่จริงแล้วการล้างโพรงจมูกไม่ได้เป็นอันตรายอะไรนะล้างได้ทุกวันอีกด้วย การที่จะล้างโพรงจมูกนั่นก็คือการทำให้โพรงจมูกสะอาดแต่วิธีต่างๆนั้นเราสามารถทำด้วยวิธีการเอาน้ำเกลือมาล้าง น้ำเกลือที่เราพูดถึงนี้มันจะมีแบบชนิดผงและแบบชนิดน้ำถ้าเป็นแบบชนิดผงก็สามารถไปผสมน้ำได้เองอีกต่างหาก อยู่ที่ว่าท่านจะสะดวกในรูปแบบไหนนั่นเอง

ขั้นตอนในการล้างจมูกมีอะไรบ้างและต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้างมาดูกันเลย

อันดับแรกเราต้องยกให้น้ำเกลือที่เป็นพระเอกของงานนี้เลยแหละ ซื้อน้ำเกลือนี้จะต้องมีความเข้มข้นอยู่ประมาณ 0.9% นะคะ จากนั้นหาภาชนะมาสำหรับเอาไว้ใส่น้ำเกลือ และสลิงที่เอาไว้ดูดน้ำเกลือหรือเอาไว้ชำระล้างโพรงจมูกของเรานั่นเอง อุปกรณ์ทั้งหมดนี้เพียงแค่นี้แหละก็ทำให้กูจมูกของเราสะอาดได้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับวิธีล้างจมูกของเรานั้นทำได้ดังต่อไปนี้

ก่อนอื่นเลยการที่เราจะทำอะไรแต่ละอย่างนั้นเราควรล้างมือให้สะอาดนะคะเพราะว่ามันคือสิ่งจำเป็นการที่เราจะนำอะไรเข้าไปภายในร่างกายของเราถ้ามันไม่สะอาดจริงเราจะเป็นการพาเชื้อโรคเข้าไปอีกด้วย พอล้างมือสะอาดแล้วให้นำน้ำเกลือเทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นให้ใช้สลิ้งดูดน้ำเกลือในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นให้ทำการฉีดเข้าไปในโพรงจมูกของเราโดยในขณะที่ฉีดเราต้องกลั้นหายใจด้วยนะอาจจะสำลักเข้าไปได้และให้น้ำเกลือนั้นไหลออกมาให้หมดจากนั้นก็ทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าเช็ดเพียงเท่านี้โพรงจมูกของคุณก็สะอาดแล้ว

 

สนับสนุนโดย  dewabet

ออกกำลังกายให้ได้ผล

สาวๆหลายคนอาจจะมีปัญหากับหุ่น รูปร่างหรือเรื่องสุขภาพร่างกายของตนเอง ฉะนั้นคงคิดว่าการออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงแล้ว จะทำให้หุ่นรูปร่างของเรานั้นดีด้วย แต่เราต้องรู้จักแบ่งเวลาด้วย ไม่ใช่หักโหมจนเกินไป แบบนั้นอาจจะทำให้เกิดผลเสีย แก่ร่างกายของเราได้เช่นกัน เราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดี ไม่ว่าจะการทำงาน การเรียน จะต้องมีเวลาว่างที่เหลือที่ดีแก่ร่างกายของเราอย่างมากๆและก็ทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงดังนั้นเราก็ควรที่จะดูแลใจ  

การแบ่งเวลาในการออกกำลังกาย

เราจะเห็นได้ว่า สาวๆบางคนทำงานจนแทบไม่มีเวลาในการดูแล ใส่ใจสุขภาพร่างกายตัวเองเลย จะเล่นกีฬาต่างๆ ตามความต้องการและความสะดวกของเรานบางทีอาจจะสายเกินแก้ แต่เราหันมาสนใจตอนนี้ก็ยังทัน เราจะต้องรู้จักการแบ่งเวลาดังนี้ หลังจากที่เรานั้น กลับจากที่ทำงาน ควรพักก่อนสัก 30-1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายนั้นได้พักสักหน่อย หลังจากนั้นเราก็ค่อยไปออกกำลัง ตามความสะดวกของเราได้เลย

ไม่ว่าการตีแบต เล่นเทนนิส การ บางคนอาจจะเน้นการวิ่งที่สวนสาธารณะ แต่การออกกำลังกายนี้ต้องทำอย่างน้อย สามสิบนาทีขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายของเรานั้น ได้ฟื้นฟูพลังงานอย่างมากเช่นกัน และการออกกำลังกายนั้น จะต้องทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 – 4 วันอย่างต่ำ เพื่อการเพิ่มความแข็งแเรา จะสามารถเพิ่มภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกัน ให้แก่ร่างกายรง แก่ร่างกายของของเรามากยิ่งขึ้นและเรานั้น จะเจ็บป่วยได้ยากเช่นกัน 

ผลดีของการออกกำลังกาย

จะทำให้ร่างกายนั้น มีความแข็งแรง มีพลังงานในการใช้ชีวิตแต่ละวัน อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้หุ่นและรูปร่างของเรานั้น ดีขึ้น กระชับ สร้างภูมิต้านทางที่ดีให้แก่ร่างกายของเราอย่างดี นอกจากนี้เราต้องรู้จักเลือกรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ร่วมด้วย เพราะเพื่อภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของเราอีกระดับหนึ่ง ฉะนั้นเราต้องรู้จักหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพร่างกายของตัวเองให้มากขึ้น

เพื่อให้เกิดผลที่ดีในการใช้งานชีวิตประจำวันของเราอีด้วย เพราะในปัจจุบันนี้เราต้องเจอความเปลี่ยนแปลงและมลภาวะต่างๆที่ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างมาก ฉะนั้นคนส่วนใหญ่เริ่มหันใส่ใจเรื่องสุขภาพร่างกายของตัวเราเองอย่างมากเพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุในแต่ละวันของเรา ดังนั้นการออกกำลังกายร่วมกับการทานอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้เรานั้น รับพลังงานที่ดีได้ เราจะต้องรู้จักวิธีในการดูแลตัวเองของแต่ละคนด้วย เพื่อการดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ป้องกันจากโรคภัยต่างๆ

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง มือถือ

ป้องกันตัวเองในช่วงหน้าฝนอย่างถูกวิธี

หน้าฝนหลายคนมักจะมองถึงความเปียก ซึ่งไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวกเอาเสียเลย จึงทำให้ใครต่อใครมักไม่ชอบหน้าฝนอย่างที่มันควรจะเป็น แต่อันที่จริงแล้วถ้าเรารู้จักรับมือกับมันอย่างไร เรามองว่าหน้าฝนก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปก็ได้นะ เพราะในความเป็นธรรมชาติของมันก็ทำให้เราไม่ร้อน แถมบรรยากาศยังดีอีกด้วย และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีความชื่นชอบในหน้าฝน

หลายคนมักกลัวการเดินทางในช่วงหน้าฝนเพราะอาจจะก่อให้เกิดการเปียกแฉะ ซึ่งอันที่จริงแอพพลิกเคชั่นในการดูพยากรณ์อากาศก็มีนะดังนันหากจะเดินทางไปไหนก็เปิดแอพดูบ้างจะได้ไม่เสียเวลาและไม่ทำให้เป็นวันห่วยๆต้องเดินตากฝนก็ได้นะ

เราสามารถรับมือกับหน้าฝนได้อย่างไร

สำหรับการเดินทางง่ายนิดเดียวเอง ถ้าหากว่าคุณจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปไหนมาไหนแล้วละก็ คุณก็นำเสื้อกันฝนติดตัวไปสิคะ เพราะในบางพื้นที่ที่ฝนตกนั้นก็จะไม่ทำให้คุณเปียกได้อย่างแน่นอน หรืออาจจะเป็นการนำร่มติดตัวไปก็ได้ ซึ่งสมัยนี้ร่มมีหลายขนาดมีแบบเล็กที่สามารถพับได้เหลือแค่นิดเดียวเอาติดตัวไปไหนมาไหนสบายเลย

แถมถ้าเจอแดดที่ร้อนมากก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก นอกจากจะไม่ทำให้เปียกฝนยังป้องกันแสงยูวีไม่ทำให้ให้ร้อนหรือดำด้วยนะ เห็นมั้ยล่ะว่าดีและมีประโยชน์ทั้งนั้น แถมพกพาก็ไม่แกะกะอะไร สะดวกมาก

หากคุณไม่ได้ป้องกันอะไรเลยแล้วปังเอิญไปโดนฝนนั้นสิ่งที่คุณควรทำนั่นก็คือการที่คุณจะต้องหาเครื่องดื่มอุ่นๆทาน เพราะร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะที่ปียกชื้น ดังนั้นอาจจะก่อให้เกิดไข้หวัดได้ง่าย ถ้าหากว่าไม่ได้อยู่ในบ้านก็ควรที่จะหาเครื่องดื่มอุ่นๆทาน เพื่อปรับอุณภูมิภายในร่างกายนะ

แต่ถ้าถึงบ้านแล้วนะนำว่าควรที่จะรีบอาบน้ำเลยจะดีกว่า เพราะเป็นการชำระร่างกาย นอกจากจะได้ปรับอุณหภูมิภายในร่างกายแล้วยังเป็นการช่วยฆ่าเชื้อโรคที่มากับสภาพแวดล้อมที่คุณเจอมาอีกด้วย การอาบน้ำควรสระผมและเป่าให้แห้งจะได้ไม่ก่อให้เกิดไข้หวัด

ถ้าหากว่าคุณตากฝนมาทั้งวัน ทันทีที่กลับบ้านนั้นควรที่จะอาบน้ำ สระผมและที่สำคัญให้ทานน้ำอุ่น หรือถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรืออ่อนแออยู่แล้วก็ทานยาดักไว้ก่อนเลย เพราะมันจะช่วยในเรื่องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่คุณได้ดียิ่งขึ้น การทานยาก็ไม่ควรทานมั่วนะคะ อาจจะเป็นยาแพ้อากาศหรือยาตามที่แพทย์จัดให้เท่านั้น

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  dewabet

มาปกป้องดูแลดวงตาของเรากันเถอะ

            ดวงตา เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่สำคัญมากสำหรับการดำรงชีวิต และไม่สามารถมีอะไรมาทดแทนกันได้ เราจึงจำเป็นต้องปกป้อง และดูแลดวงตาของเราให้ดีที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆที่จะเป็นอันตรายต่อดวงตา และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยในการบำรุงสายตาของเรา สามารถทำได้ง่าย ๆได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ

  1. หลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาโดนกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ เพราะอาจทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรได้ ควรป้องกันโดยการสวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาโดนกับแสงแดดโดยตรง
  2. เมื่อจำเป็นจะต้องทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆควรมีการแบ่งการพักสายตาเป็นระยะ ๆ เพื่อไม่ให้ดวงตาเกิดอาการ ตาล้า ตาแห้ง จนเกินไป
  3. ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาติดเชื้อ และไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ดวงตาของเราแห้ง และหากมีอาการระคายเคืองควรรีบถอดออกทันที ไม่ควรฝืนใส่ต่อ
  4. ผู้ที่ใช้เครื่องสำอางชนิดต่าง ๆควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และควรดูวันหมดอายุก่อนการเลือกซื้อ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่เก่า เก็บไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจมีเชื้อโรคที่ทำให้ดวงตาติดเชื้อได้
  5. ผู้ที่ทำงานที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อดวงตา เช่น งานก่อสร้าง ที่จะต้องพบเจอกับฝุ่นทราย สีสเปรย์หรือสารเคมีต่าง ๆที่ใช้ในการก่อสร้าง ควรสวมแว่นตาที่เหมาะสมกับการทำงานชนิดนั้น ๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อดวงตา
  6. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีวิตามินที่ช่วยในการบำรุงสายตา
  • ราสเบอร์รี่ (Raspberry) ผลไม้สีแดง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆเกี่ยวกับดวงตา อาทิ เช่น โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย ฯลฯ เป็นต้น
  • ผักบุ้ง (Swamp Morning Glory) เป็นแหล่งสารอาหารที่รวมไปด้วยวิตามิน A และวิตามิน C และมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงผู้ที่มีอาการสายตาสั้นได้เป็นอย่างดี
  • อะโวคาโด (Avocado) มีวิตามิน A และ Beta-carotene ที่ช่วยในการบำรุงสายตา แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1 ลูก เพราะจะทำให้มีไขมันสูงเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน อาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้
  • ไข่แดง (Yolk) สารอาหารในไข่แดงจะช่วยลดการเสื่อมของดวงตาได้
  • ปลาทูน่า (Tuna) อุดมไปด้วยไขมัน Omega 3  ช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการตาล้า ตาแห้ง จากการใช้จอคอมพิวเตอร์นานจนเกินไป
  1. ควรพบแพทย์เพื่อตรวจดวงตาเป็นประจำ เพื่อตรวจหาโรคที่เกี่ยวกับดวงตาต่าง ๆ เช่น โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือหากมีอาการผิดปกติเช่น อาการตาแดง อาการเคืองตา ควรรีบพบแพทย์ทันที

 

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ 2020

การบริหารสมองเพื่อป้องกันสมองเสื่อม

การออกกำลังกายของสมองเราสามารถที่จะทำได้ทุกกิจวัตรประจําวันไม่ว่าจะเป็นการมองการได้ยินการสื่อสารและการทำให้อารมณ์ของเราบวก ถ้าเราได้ใช้งานได้หมดครบทุกส่วนเราอาจจะป้องกันสภาวะสมองเสื่อมได้

การออกกำลังกายของสมองก็คือจะเป็นการใช้งานของสมองได้สมดุลกันทั้งหมดทั้ง4ด้านเราจะมาเริ่มการออกกำลังกายของสมองซีกขวา ซึ่งสมองซีกขวานั้นคนเราส่วนมากจะไม่ค่อยใช้ก็เพราะว่าใช้เหตุผลมากจนเกินไป ซึ่งสมองด้านซีกขวานั้นเรามักจะชอบใช้ในด้านเกี่ยวกับด้านศิลปะดนตรีและการเคลื่อนไหวที่มีจังหวะ ยกตัวอย่างเช่นการที่ได้ร้องรำทำเพลงที่เราไม่ต้องหันไปดูเนื้อเพลงเลยร้องทำเพลงไปได้เอาตามใจชอบเลยหรืออาจจะรำลึกถึงเพลงเก่าๆที่ตัวเรานั้นชอบ 

ซึ่งเพลงเก่าๆเหล่านี้แหละมันสามารถจะทำให้เรานั้นได้ทบทวนความจำความสุขที่อยู่ในอดีตได้ต่อมาการบริหารสมองซีกขวาคือการที่เรานั้นทำอะไรที่เรานั้นไม่เคยได้กระทำมันมาก่อนอย่างเช่นเลยการแปรงฟันด้วยมือข้างที่เรานั้นไม่ถนัดหรืออาจจะเขียนตัวหนังสือในข้างที่เรานั้นไม่เคยเขียนมาก่อนหรืออาจจะเป็นการฝึกบริหารโดยทั้งสองมือมันก็จะเป็นสิ่งที่เรานั้นไม่เคยทำมาก่อนและมันจะทำให้การเคลื่อนไหวของสมองซีกซ้ายและซีกขวาได้มีความสมดุลกันได้เป็นอย่างดี

การที่คนเราใช้ภาษากายมากกว่าที่คนเรานั้นจะใช้ภาษาพูดคนเราอาจจะใช้ภาษากายได้ โดยที่ตัวของเรานั้นไม่พูดแต่ว่าเรานั้นได้มองตาและสบตาอย่างนิ่งๆกับคนที่เรานั้นจะพูดคุยด้วยโดยที่เรานั้นยังไม่ต้องพูดอะไรเลยสัก3นาทีหรืออาจจะเป็นการเลียนแบบเสียงและพูดให้มันได้เหมือนกับเขาให้ได้มากที่สุด มันก็จะทำให้สมองของเราด้านซีกขวาของเรามันก็จะทำการส่งภาษาออกมาได้มากกว่าภาษาพูด

สำหรับการบริหารสมองซีกซ้าย ก็คืออาจจะเป็นพวกที่ชอบใช้อารมณ์ศิลปินเยอะแยะมากมายมันก็จะทำให้เรานั้นมีเหตุผลที่น้อยลงต่อมาในด้านวิธีในการฝึกนั้นก็คือเราอาจจะต้องไปฝึกในเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเลขที่มีความเกี่ยวข้องกับการเขียนตัวอักษรให้มันได้มีลำดับ1234ได้มีการเขียนในด้านรูปของเรขาคณิตเราอาจจะต้องใช้มือทั้งสองข้างเพื่อที่จะทำการวาดรูปเรขาคณิต 

ซึ่งรูปทรงต่างเหล่านี้มันจะมีความคงที่มันอาจจะทำให้ตัวของเรานั้นได้มีการใช้สมองซีกซ้ายได้มีเหตุและผลมากยิ่งขึ้นและถ้าหากว่าเรานั้นทำคนเดียวแล้วคิดที่อยากจะสนุกมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นเราอยากจะชวนเพื่อนเข้ามาเพื่อที่จะมาเล่นหมากฮอสซูโดกุอักษณไขว้กันซึ่งมันจะทำให้เรานั้นได้มีเหตุมีผลรู้แพ้รู้ชนะกันมาขึ้น

 

สนับสนุนโดย  next88 slot

โรคกระเพาะนั้นรุนแรงหรือไม่ 

เกิดขึ้นโดยมีสาเหตูมาจากการทำงานที่ผิดปกติ อาทิ การบีบตัวของกระเพาะกับลำไส้ที่ทำงานไม่ประสานกัน หรืออาจเกิดจากสภาพกรดในกระเพาะที่มีมากเกินไป แต่ว่าไม่ทำให้เกิดแผล ซึ่งสาเหตุที่ว่ามานี้ก็ทำให้ผู้ป่วยร้อยละ 70-15 ต้องเดินทางมาพบแพทย์ แต่ถึงยังไงก็ตามแต่ความผิดปกติภายในกระเพาะอาหารที่เกิดขึ้นจากกรดนั้น ผู้ป่วยก็อาจไม่มีอาการปวดท้องเสมอ ไป

โดยผู้ป่วยหลายรายอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระ ดำ มีสาเหตุมาจากแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดมาจากกรดเกิน ในบางรายอาจมีอาการแสบแน่นที่หน้าอกเนื่องจากกรดไหลย้อน ทำให้หลอดอาหารอักเสบรวมไปถึงมีอาการไอ เนื่องจากอักเสบขึ้นมาถึงคอ โดยรวยแล้ว ก็เป็นของโรคกระเพาะอาหารทั้งสิ้น 

โรคกระเพาะ รุนแรงหรือไม่ 

ตามปกติแล้วโรคกระเพาะนั้นเป็นโรคที่ไม่รุนแรง สามารถรักษาให้หายได้เสมอหากว่ามีการพยากรณ์โรคที่ดี โดยการให้ยาและปรับพฤติกรรมใช้ชีวิตของผู้ป่วย แต่เมื่อใดที่เป็นโรคกระเพาะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากการที่เลือดออกไม่หยุดในบริเวณที่เกิดแผล หรืออักเสบ และเมื่อเกิดการเรื้อรังนับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาการและโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองของกระเพาะอาหารได้ ฉะนั้น ต้องหมั่นดูแลตัวเองให้ดี รับประทานอาหารให้ตรงต่อเวลาและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 

5 สัญญาณนั้นบ่งบอกว่าเสี่ยงต่อการที่จะเป็นโรคกระเพาะ

ในเวลาที่เรานั้นมีอาการปวดท้องอันเกิดจากมีแผลในกระเพาะอาหารอาจมีลักษณะอาการที่ผู้ป่วยรู้กันอยู่แล้วว่านั้นก็คือการที่เรานั้นกินอิ่มนั้นก็ปวดหิวก็มีอาการปวดซึ่งอาการที่เราปวดนั้นจะสอดคล้องกับอาการที่ปวดอื่นนั้นหรือไม่เพราะว่าอาการนั้นก็ต้องปวดจนบางที่เราก็แยกไม่ออกไม่เหมือนกันดันนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเป็นโรคกระเพาะลองมาตรวจดูจาก 5 สัญญาณเสี่ยงเกิดโรคกระเพาะไปพร้อมๆกัน 

  • อาการปวดนั้นก็จะเป็นแบบว่าจุกๆแสบๆอยู่แถวๆลิ้นปี่ บางทีนั้นก็มีอาการปวดจี๊ดขึ้นมา แล้วจู่ๆนั้นก็หายเป็นบริเวณที่เราปวดนั้นก็จะอยู่แถวสะดือ ลิ้นปี่ 
  • เวลาที่เรานั้นอิ่มหรือว่าเวลาที่เรานั้นหิวนั้นก็เป็นอาการปวดท้องทางฝั่งขวามือ อาจไม่ได้ทำให้เรานั้นรู้สึกว่าปวดมากแต่ถ้าหากว่าเรานั้นกินยาก็อาจจะทำให้เรานั้นลดกรดเข้าไปยังพอช่วยบรรเทาอาการได้ 
  • บางทีนั้นเราก็มีอาการปวดแสบท้องบริเวณลิ้นปี่โดยที่เรานั้นก็ไม่รู้ว่าเรานั้นมีอาการท้องว่างหรืออิ่มแล้ว 
  • เมื่อที่เรานอนหลับก็มีอาการปวดท้องจนทำให้ต้องตื่นเป็นอาการที่เกิดขึ้นแบบไม่แน่นอน 
  •  มีอากรที่เรานั้นปวดมากจนทำให้มีอาการข้างเคียง เช่น อาเจียน หรือว่าบางครั้งนั้นมีอาการถ่ายเป็นเลือด 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์