3 ท่าโยคะที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงจึงไม่ค่อยที่จะได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือแทบจะไม่ได้ออกกำลังกาย เนื่องจาก เริ่มเข้าสู่วัยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ร่างกายอ่อนแอและไม่ค่อยจะมีแรงในการใช้ชีวิตจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มหันมาดูแลสุขภาพร่างกายด้วย

การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมและเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุนั่นก็คือ การเล่นโยคะ

ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายแบบธรรมดา แถมยังมีประโยชน์ดีๆต่อร่างกายของเราเยอะมากๆอีกด้วย เนื่องจากโยคะ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นไปที่การใช้ท่าทางจึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงแก่ร่างกายได้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย

แถมยังสามารถทำให้ผู้สูงอายุนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย ฉะนั้น ขอบอกเลยว่าสำหรับผู้สูงอายุคนไหนที่อยากหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอการเล่นโยคะเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั้นถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่ควรพลาด

อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาแนะนำท่าออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะที่  agplus   เหมาะสำหรับผู้สูงอายุรับรองได้เลยว่าหากเล่นเป็นประจำนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังไม่เกิดความอันตรายต่อผู้สูงอายุอีกด้วย จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • ท่านักรบ

เป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมากเพราะท่านี้เป็นท่าที่ทำได้ง่ายๆ แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายของผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งเป็นท่าที่ ผู้สูงอายุจะต้องยืนตัวตรง แขนแนบกับลำตัว ขาทั้งสองข้างอ้าเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นให้เอนข้างซ้ายและเอนข้างขวา สลับกันไปมากซึ่งถ้านี่จะเป็นการยืดเส้นยืดสาย ได้เป็นท่าโยคะที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั่นเอง

  • ท่าต้นไม้

เป็นหนึ่งในท่าโยคะที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุมากๆเพราะเป็นท่าที่ สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ แถมยังเป็นท่าที่ช่วยให้ผู้สูงอายุนั้น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทรงตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายอีกด้วย ขอบอกเลยว่าหากทำท่านี้เป็นประจำนอกจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้ผู้สูงอายุนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงอีกด้วย

  • ท่าบิดตัว

เป็นอีกหนึ่งท่าโยคะ ที่เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุมากๆ เพราะเป็นท่าที่เราทำได้ไม่ยากเพียงแค่ผู้สูงอายุนั่งลงกับพื้นหรือนั่งบนเก้าอี้บิดตัวไปทางซ้ายหรือทางขวา สลับกันไปมาซึ่งถ้านี่ถือเป็นหนึ่งในถ้าที่จะช่วยบริหารร่างกายของผู้สูงอายุให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความแข็งแรง แต่ทางที่ดีควรที่จะระมัดระวังในเรื่องของการบิด เพราะหากเราบิดมากจนเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

อาหารเย็นช่วยลดพุง

รู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้การที่เรามีระบบเผาผลาญไขมันที่ดี ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เลือกรับประทานอาหารตามปาก จนทำให้ร่างกายนั้นเกิดการสะสมของไขมันและทำให้เรานั้นอ้วนได้ง่ายมากขึ้น และแน่นอนว่า

อาหารเย็นช่วยลดพุง หากเรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นคนส่วนใหญ่ก็มักที่จะมองหาวิธีการที่จะทำให้น้ำหนักของตนเองนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว

ซึ่งในสมัยนี้การลดน้ำหนักก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป วิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมนั่นก็คือการออกกำลังกายหรือแม้แต่การควบคุมอาหาร เพื่อช่วยลดการสะสมของไขมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันบริเวณหน้าท้องซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลายๆคนนั้นหนักใจกันเป็นอย่างมาก

เพราะการที่เรามีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากจนเกินไป อาจจะทำให้ความมั่นใจในการใช้ชีวิตของเรานั้นลดลงได้ ฉะนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการลดพุง หรือไขมันส่วนเกินก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะนอกจากการรับประทานอาหารจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามแล้ว

วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารเย็นที่หลายๆคนนั้นหลีกเลี่ยง เพราะกลัวว่าจะทำให้อ้วนได้ง่าย ซึ่งขอบอกเลยว่าอาหารเย็นก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถลดพุงของเราได้ จะมีอาหารประเภทอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

1.โยเกิร์ต ไม่ว่าเราจะรู้สึกหิวมากขนาดไหนก็ตามเราก็ควรที่จะเลือกสิ่งดีๆให้แก่สุขภาพร่างกายของเรา โดยเฉพาะคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักหรืออยากที่จะลดพุงอย่างจริงจัง ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกหิวมื้อเย็นเราก็ควรที่จะเลือกเป็นโยเกิร์ต เพราะโยเกิร์ต อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายเยอะมากๆอีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายทำให้เรานั้น สามารถลดพุงได้อย่างรวดเร็ว

2.กล้วย รู้หรือไม่ว่านอกจากกล้วยจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการทำให้เราหลับได้สบายมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและลดพุงได้เป็นอย่างดี กล้วยจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่สูงมากๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย อีกทั้งยังทำให้เรานั้นอิ่มท้องได้นาน และไม่รู้สึกหิวในมื้อดึกอย่างแน่นอน

3.คอทเทจชีส รู้หรือไม่ว่าอาหารชนิดนี้จะอุดมไปด้วย เคซีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จะช่วยทำให้เรานั้นอิ่มท้องตลอดทั้งคืนได้อย่างง่าย ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ช่วยเร่งระบบเผาผลาญไขมัน ซึ่งขอบอกเลยว่าสำหรับใครที่เคร่งการทานมื้อเย็น การที่เรารับประทานอาหารชนิดนี้นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายยังทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  หวยดี.com

วิธีแก้ปัญหาผิวแห้งแบบธรรมชาติที่คุณทำเองได้ที่บ้าน

วิธีแก้ปัญหาผิวแห้งแบบธรรมชาติ รายชื่อตัวการที่ทำให้ผิวแห้งนั้นมีสาเหตุมาจากนิสัยการอาบน้ำทุกวัน (เช่น อาบน้ำอุ่นและถูตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนู) และสภาพอากาศที่เลวร้ายในฤดูหนาว ไปจนถึงผิวที่ขาดน้ำมันตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ข่าวดีก็คือ หากคุณไม่จัดการกับสภาพผิว คุณอาจไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อปลอบประโลมผิวที่แห้ง

คุณอาจลองใช้วิธีการรักษาที่บ้านร่วมกับขั้นตอนการดูแลผิวแทน อันที่จริง ส่วนผสมสำหรับแก้ปัญหาผิวแห้งเหล่านี้อาจอยู่ในครัวของคุณอยู่แล้ว

ส่วนผสมหลายอย่างที่เรารวมไว้ด้านล่าง เช่น น้ำมันมะพร้าว ชา และว่านหางจระเข้ มักถูกเรียกรวมๆ ว่าเป็น “วิธีการรักษา” แม้ว่าจะใช้กันมานานหลายศตวรรษในฐานะยารักษาชีวจิตในวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก สิ่งสำคัญคือ หากคุณกำลังจัดการกับสภาพผิวพื้นฐานที่อาจทำให้ผิวแห้ง

ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการก่อนที่คุณจะลองใช้วิธีการรักษาที่บ้าน การทำเช่นนี้สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวแห้งแย่ลงได้

Jennifer Adell ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาตและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอาวุโสของ New Beauty and Wellness ใน Westport รัฐคอนเนตทิคัตกล่าวว่า “การเยียวยาที่บ้านนั้นยอดเยี่ยมสำหรับผิวหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีปัญหาหรือเลือกใช้วิธีการดูแลผิวแบบอื่น”

“อย่างไรก็ตาม หากคุณประสบปัญหาโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น โรคโรซาเซีย โรคสะเก็ดเงิน และสิวเรื้อรัง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงามหรือแพทย์ผิวหนัง”

เหตุใดจึงเลือกใช้วิธีการรักษาผิวแห้งแบบธรรมชาติแทนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ หากส่วนผสมที่ยาวแสดงความกังวลหรือทำให้คุณสับสน การรักษาที่บ้านอาจคุ้มค่าที่จะลอง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์สามารถมีส่วนผสมมากมาย – ไม่เพียง แต่มีผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น

แต่ยังมีสารกันบูดอีกด้วย Christine Poblete-Lopez, MD, ผู้อำนวยการโครงการที่    alpha88   อยู่อาศัยและรองประธานแผนกโรคผิวหนังกล่าวที่ คลีฟแลนด์คลินิกในโอไฮโอ ซึ่งมักเป็นกรณีนี้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำ เนื่องจากแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายในสูตรเหล่านี้

ตามข้อมูลของ Michigan State University สารกันบูดเหล่านี้ซึ่งไม่รวมถึงสารเติมแต่ง เช่น แอลกอฮอล์และน้ำหอม อาจมีส่วนทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง และบางครั้งเกิดอาการแพ้ได้

คุณอาจต้องการให้ขั้นตอนการดูแลผิวของคุณเรียบง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการแพ้หรือผิวแพ้ง่าย ตัวอย่างเช่น ซึ่งแตกต่างจากโลชั่นและครีมน้ำที่มีส่วนผสมของสารกันบูดตรงที่ น้ำมันมีเบสตามธรรมชาติ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแห้งเมื่อไม่เกี่ยวข้องกับสภาพผิว

อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์อื่นๆ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ดังนั้นจึงไม่รับประกันว่าจะปราศจากความเสี่ยง เป็นความคิดที่ดีเสมอที่จะตรวจสอบกับแพทย์ผิวหนังก่อนที่จะเพิ่มสูตร DIY ใหม่ๆ ลงในขั้นตอนการดูแลผิวของคุณ เพื่อความปลอดภัย

เคล็ดลับการบริหารสมองให้แข็งแรง

   สมอง เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกายที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการที่เรามีความจำที่ดี มีสมองที่แข็งแรง ก็จะยิ่งง่ายต่อการใช้ชีวิต แต่เมื่อไรก็ตามที่เราปล่อยละเลยการดูแลสมอง ทำให้สมองได้รับความเสียหายอย่างหนัก แน่นอนว่านอกจากจะทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายที่เกี่ยวกับสมองได้แล้ว

เคล็ดลับการบริหารสมองให้แข็งแรง ยังอาจส่งผลกระทบต่อความจำ และการใช้ชีวิตอีกด้วย ดังนั้น การดูแลสมองให้ดีและแข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม

ซึ่งแน่นอนว่าสมัยปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมกันเยอะมากๆ เนื่องจากในแต่ละวันนั้นมักที่จะมีความเครียดกับการทำงานมากเกินไป จนส่งผลให้สมองของเรานั้นทำงานหนักและได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ก็อยากที่จะมีสมองที่สุขภาพดีแข็งแรงและมีความจำที่ดีมากขึ้น

ฉะนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำคลิปลับง่ายๆที่จะช่วยให้คุณนั้น มีระบบประสาทและสมองที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพราะการที่เราบริหารสมองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั่น นอกจากจะช่วยเพิ่มความจำของเราให้ดีขึ้นได้แล้ว ยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีท่าบริหารสมองอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • การบริหารสมองด้านหลัง

รู้หรือไม่ว่า สมองด้านหลังเป็นสมองแห่งความรู้สึก ซึ่งเราสามารถบริหารสมองด้านหลังเพื่อให้ สมองของเราแข็งแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นการหลับตา การทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการกระตุ้นความรู้สึก บริเวณด้านหลังของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสระผม การสัมผัสสิ่งของ รวมไปถึงการดมกลิ่นอาหารอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีบริหารสมองวิธีง่ายๆ เพื่อให้สมองด้านหลังของเหล่านั้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแข็งแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

  • การบริหารสมองด้านขวา

สมองด้านขวาเรียกได้ว่าเป็นสมองแห่งความเคลื่อนไหว ซึ่งการบริหารสมองด้านนี้โดยการ ร้องเพลง หรือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ไม่จำเป็นต้องดูเนื้อ ก็เรียกได้ว่าเป็นการบริหารสมองเพื่อให้สมองด้านนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อช่วยให้สมองด้านนี้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

  • การบริหารสมองด้านซ้าย

รู้หรือไม่ว่าสมองด้านซ้ายเป็นสมองแห่งความ ใช้เหตุผล ซึ่งสมองด้านนี้จะเป็นสมองที่เราจะต้องใช้ความคิด ไม่ว่าจะเป็น การคิดเลข คิดงาน หรือแม้แต่การคิดอะไรก็ตาม ซึ่งหากเราใช้สมองด้านนี้คิด บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม ก็ถือเป็นการได้ใช้สมองและ ได้ฝึกสมองด้านซ้ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้น หากใครที่อยากมีสมองที่แข็งแรง การบริหารสมองบ่อยๆ จะยิ่งช่วยให้สมองของเรานั้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    กริลแอร์

3 อาหารช่วยให้เราหลับสบาย

หากพูดถึงเรื่องของการนอนหลับ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย แถมยังช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราได้พักผ่อนไปด้วย แต่เนื่องด้วยสมัยปัจจุบันนี้ การใช้ชีวิตของคนเราเต็มไปด้วยการทำงาน หรือมั่วแต่วุ่นวายอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว

จนส่งผลให้บางคนนั้นไม่ค่อยได้มีเวลาพักผ่อน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย หรือบางคนอาจจะมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ เป็นคนที่หลับยากอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลานอน ก็มักที่จะมีอาการกระสับกระส่าย หรือบางครั้งก็อาจมีอาการตื่นกลางดึก

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าอาการต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้น หากเราไม่รีบหาทางแก้ ก็อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่เป็นคนหลับยาก หรือมีอาการหลับ ๆ ตื่น ๆ ในช่วงกลางดึก และอยากหาวิธีแก้ เพื่อให้ตนเองนั้นหลับได้สนิทตลอดทั้งคืน

อาหารช่วยให้เราหลับสบาย วันนี้เราก็มีอาหารดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณนั้นหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน รับรองได้เลยว่าร่างกายของคุณจะต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแน่นอน จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.น้ำผึ้ง นอกจากความหวาน และความอร่อยที่เราจะได้รับจากน้ำผึ้งแล้ว รู้หรือไม่ว่า น้ำผึ้งสามารถช่วยในการบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถช่วยปรับสภาวะอารมณ์ของเราได้ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการทำให้เรานั้นนอหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืนอีกด้วย ซึ่งการที่เราเลือกดื่มน้ำผึ้งก่อนนอน นอกจากจะช่วยให้เรานั้นนอนหลับได้ง่ายมากขึ้น ยังช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ยิ่งเราดื่มเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน 

2.การเลือกดื่มนม แน่นอนว่านม เป็นอาหารที่สามารถดื่มกันได้ง่ายมาก  ๆ แถมยังเป็นอาหารที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ที่ครบถ้วนอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่า นม เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถช่วยเรานอนหลับได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากนม จะเป็นแหล่งของทริปโตเฟนที่สูงมากๆ สามารถช่วยในการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นนมอุ่นๆ จะยิ่งช่วยได้ สำหรับใครที่เป็นหลับยากของบอกเลยว่าการดื่มนมก่อนนอนนั้นช่วยคุณได้อย่างแน่นอน 

3.การเลือกทานผลไม้ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการทานผลไม้บ่อย ๆ นั้นมีส่วนช่วยในการทำให้เรานอนหลับได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะ กล้วย กีวี่ ซึ่งผลไม้ประเภทนี้จะอุดมไปด้วยสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงมีสารชนิดอื่น ๆ ที่มีผลช่วยกระตุ้นให้เรานั้นนอนหลับได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  huaydee

ผลไม้สำหรับคนลดน้ำหนัก

นอกจากการเลือกรับประทานอาหารจะมีประโยชน์ และมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาแล้วนั้น รู้หรือไม่ว่าการเลือกทานผลไม้ก็มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะเนื่องจากว่า ผลไม้ เป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยแหล่งอาหารจากธรรมชาติมากมายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นทั้ง วิตามิน แร่ธาตุ หรือสารอาหารอื่น ๆ

ที่มีความจำเป็นต่อสุขภาพร่างกายของเรา รู้หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้เริ่มหันมาสนใจการลดน้ำหนักกันมากขึ้น

ผลไม้สำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะมองว่าการมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง รวมไปถึงการมีรูปร่างที่สวยสุขภาพดีนั้น เป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ    alpha88   ในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งในสมัยปัจจุบันนี้การลดน้ำหนักก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงการเลือกรับประทานผลไม้ก็มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

เพราะผลไม้บางชนิดจะอุดมไปด้วยแคลอรีที่ต่ำมาก ๆ จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังอยากลดน้ำหนัก และกำลังมองหาผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ วันนี้เราก็จะมาแนะนำผลไม้ ที่หากทานเป็นประจำ จะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะมีผลไม้ประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

แอปเปิลเขียว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วแอปเปิลเขียว เป็นผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับคนที่อยากลดความอ้วนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยมากกว่าแอปเปิลสีแดง อีกทั้งยังให้พลังงานได้สูงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีใยอาหาร ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ มีวิตามินซี ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลหรือลดน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

แก้วมังกร เป็นหนึ่งในผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย และเหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย โดยแก้วมังกรนั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลดวัยได้ ช่วยบำรุงผิวพรรณได้ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีที่ต่ำ เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักอีกด้วย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยกากใยสูง ช่วยทำให้เราขับถ่ายได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะฝรั่งนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายหลายชนิด อีกทั้งยังมีส่วนช่วยทำให้เราอิ่มท้องได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ร่างกาย ทำให้ผิวของเราเปล่งปลั่งมากขึ้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงและไม่ทำให้เราป่วยง่ายได้อีกด้วย 

3 โรคร้ายที่อาจมาพร้อมกับการดื่มน้ำน้อย

โรคร้ายที่อาจมาพร้อมกับการดื่มน้ำน้อย อย่างที่เราทราบกันดีว่า น้ำ เป็นส่วนประที่สำคัญต่อร่างกายของเราเป้นอย่างมาก เพราะปกติแล้วคนเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้อการ หรือวันละประมาณ 7-8 แก้ว เพื่อช่วยห้างกายนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งเราดื่มน้ำเยอะแค่ไหนก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา

ดังนั้น การดื่มน้ำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรให้ความสนใจ

แต่เนื่องด้วยสมัยปัจจุบันนี้ การใช้ชีวิตของคนเรานั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันออกไป จนส่งผลให้บางคนมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการดื่มน้ำ ซึ่งกลับกลายเป็นว่าในแต่ละวันนั้นเอาแต่นั่งทำงานจนไม่ได้มีเวลาดูแลตนเอง หรือไม่มีแม้แต่เวลาดื่มน้ำ

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเราขาดน้ำ หรือ มั่งมีหวย ได้รับปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายของเราบ้าง ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากการที่เราดื่มน้ำน้อย จะมีโรคไหนกันบ้างไปดูกันเลย

โรคริดสีดวง เรียกได้ว่าเป็นโรคที่หลาย ๆ คนนั้นคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง เพราะโรคนี้ถือเป็นโรคที่มีความอันตราย และอาจเป็นความทรมานต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าโรคนี้เป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้จากการที่เราดื่มน้ำน้อย จนส่งผลให้ระบบย่อยอาหารสามารถทำการย่อยได้ลำบากมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ลำไส้ของเราเกิดการแห้ง จนไม่สามารถที่จะขบอุจจาระของเราออกมได้นั่นเอง ดังนั้น ขอบอกเลยว่า หากใครที่ไม่อยากเป็นโรคนี้ก็ควรที่จะดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

โรคสมองเสื่อม รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มน้ำน้อย ก็อาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อระบบประสาท หรือสมองขอเราได้ เนื่องจากว่าหากร่างกายเกิดการขาดน้ำ หรือได้รับปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้เลือดเกิดการสูบฉีดไปเลี้ยงร่างกายที่เข้มข้นจนเกินไป และทำให้หัวใจของเรานั้นไม่สามารถที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นสาเหตุทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมนั่นเอง ดังนั้น ทางที่ดีควรที่จะดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ระบบการทำงานของร่างกายนั้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แน่นอนว่าการดื่มน้ำเยอะ ๆ จะยิ่งส่งผลดีต่อระบบทางเดินปัสสาวะ เพราะน้ำ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยชำระล้างสารพิษที่อยู่ภายในร่างกายให้ออกมาได้ ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เราดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือร่างกายได้รับปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบไปยังระบบทางเดินปัสสาวะของเราได้ ยิ่งเราปล่อยไว้นาน หรือมีพฤติกรรมการดื่มน้ำน้อย ก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายนั่นเอง

3 ข้อดีของการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

3 ข้อดีของการออกกำลังกาย ปัจจุบันนี้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ป่วยง่าย และร่างกายไม่ค่อยอำนวยในการออกกำลังกาย จนส่งผลให้ร่างกายยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น แต่ทว่า การออกกำลังกายนั้นมีความสำคัญอย่างไรสำหรับผู้สูงอายุ ขอบอกเลยว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างบสม่ำเสมอนั้นมีความจำเป็นต่อผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก

เพราะการที่ร่างกายของเราได้เคลื่อนไหว หรือได้ขยับบ่อย ๆ จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อได้ใช้งาน และมีความแข็งแรงมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือ จะยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรง และป้องกันการเกิดโรคร้ายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะมองว่าการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุนั้นไม่ค่อยมีความจำเป็น เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายผู้สูงอายุนั้นรู้สึกปวดเมื่อยได้

ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการออกกายสำหรับผู้สูงอายุ ว่าจะมีความจำเป็น และมีข้อดีอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น แน่นอนว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยให้กล้ามเนื้อภายในร่างกายของเราได้เกิดการยืดหยุ่น เพื่อช่วยในการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน และช่วยเสริมสร้างกระดูกของเราให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น ข้อดีของการออกกำลังกายเป็นประจำสำหรับผู้สูงอายุนั้นถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะจะยิ่งช่วยให้ร่างกายผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหว และแข็งแรงมากขึ้น 

ช่วยพัฒนาสุขภาพจิต สำหรับผู้สูงอายุแล้วนั้น นอกจากการนอนอยู่บ้านเฉย ๆ จะทำให้รู้สึกน่าเบื่อแล้วนั้น การที่เราไม่ทำอะไรเลยยังทำให้รู้สึกน่าเบื่อด้วย ดังนั้น การที่ผู้สูงอายุได้ออกไปหากิจกรรทำ ไปออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้ไม่รู้สึกเบื่อแล้วนั้น ยังช่วยพัฒนาสุขภาพจิตของผู้สูงอายุให้ดีได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะการที่ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดีนั้น จะยิ่งช่วยให้เราไม่เครียด และดูแก่ได้อีกด้วย 

ช่วยชะลอความแก่ได้ รู้หรือไม่ว่าสำหรับผู้สูงอายุ หากร่างได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วนั้น การออกกำลังกายยังช่วยชะลอความแก่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งข้อดีของการออกกำลังกายในข้อนี้หล่ยคนอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้น หากเราออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างความอ่อนเยาว์ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมยังมีส่วนที่ช่วยในการบรรเทาความเครียด ช่วยแก้เบื่อ หรือช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ดีให้แก่ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังคิดว่าควรจะไปออกกำลังกายหรือไม่ ขอบอกเลยว่าควรรีบทำตั้งแต่ร่างกายยังมีแรงทำ เพราะจะยิ่งทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้มากขึ้นอีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

เคล็ดลับในการใช้ชีวิตที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีที่สุด

เมื่อคุณไม่ได้มีสุขภาพดีที่สุด คุณอาจบอกได้ คุณอาจจะรู้สึกเฉยๆคุณอาจพบว่าคุณรู้สึกเหนื่อยระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีตามปกติ เคล็ดลับในการใช้ชีวิต และดูเหมือนจะเป็นหวัด ทางจิตใจ คุณอาจพบว่าไม่มีสมาธิและรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่และอาจจะเกิดส่งต่างๆตามมารวมถึงการเป็นโรคเรื้อรังได้ วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีสามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น

คุณไม่จำเป็นต้องยกเครื่องทั้งชีวิตในชั่วข้ามคืน ค่อนข้างง่ายที่จะทำการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ สองสามอย่างที่สามารถนำทางคุณไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ และเมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงหนึ่งครั้ง ความสำเร็จนั้นสามารถกระตุ้นให้คุณทำการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกมากขึ้นต่อไป

วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีคืออะไรและคุณอาจได้คำตอบที่แตกต่างกัน 50 ข้อ นั่นเป็นเพราะไม่มีทางที่จะมีสุขภาพดีได้ วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีหมายถึงการทำสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขและรู้สึกดีสำหรับคนคนหนึ่ง นั่นอาจหมายถึงการเดินหนึ่งไมล์ห้าครั้งต่อสัปดาห์ กินอาหารจานด่วนสัปดาห์ละครั้ง

และใช้เวลาเสมือนหรือพบปะกับคนที่คุณรักวันเว้นวัน สำหรับคนอื่น วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีอาจเป็นการฝึกและวิ่งมาราธอนปีละสองครั้ง หลังจากรับประทานอาหารคีโต และไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย

ไม่มีสิ่งใดที่ดีกว่าที่อื่นทั้งสองเหมาะสำหรับบุคคลนั้น คณต้องตัดสินใจว่าวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีของคุณเป็นอย่างไร

มีประโยชน์อย่างไรการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงสุขภาพของคุณอาจนำไปสู่ประโยชน์ต่อร่างกาย จิตใจ กระเป๋าเงิน และแม้กระทั่งสิ่งแวดล้อมการป้องกันโรคนิสัยที่ดีต่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคที่อาจเกิดในครอบครัวของคุณได้ ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้

ผู้ใหญ่ที่รับประทานอาหารมาตรฐานอเมริกันอุดมไปด้วยผักและผลไม้เป็นเวลา 8 สัปดาห์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง ในการศึกษาอื่นในปี 2020 แหล่งที่เชื่อถือได้ นักวิจัยพบว่าทุก ๆ 66 กรัมที่เพิ่มขึ้นของการบริโภคผักและผลไม้ทุกวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลง 25 เปอร์เซ็นต์ของการพัฒนาโรคเบาหวาน

การเปลี่ยนเมล็ดพืชที่ผ่านการขัดสีเป็นธัญพืชไม่ขัดสียังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอีกด้วย ในการศึกษาเชิงสังเกตจากผู้ใหญ่เกือบ 200,000 คน ผู้ที่รับประทานธัญพืชไม่ขัดสีมากที่สุดมีอัตราโรคเบาหวานประเภท 2 ต่ำกว่าผู้ที่รับประทานน้อยที่สุดถึง 29 เปอร์เซ็นต์และการทบทวนแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ของการศึกษา 45

เรื่องสรุปว่าการรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี 90 กรัมหรือสามมื้อ 30 กรัมทุกวันช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 22 เปอร์เซ็นต์ โรคหลอดเลือดหัวใจ 19 เปอร์เซ็นต์ และมะเร็ง 15 เปอร์เซ็นต์ ในแง่ของการออกกำลังกาย อย่างน้อย 11 นาทีต่อวันอาจเพิ่มอายุขัยของคุณ ในการศึกษาปี 2020

นักวิจัยได้ติดตามผู้ใหญ่มากกว่า 44,000 คน ผู้ที่ออกกำลังกายปานกลางถึงหนัก 11 นาทีในแต่ละวันมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตต่ำกว่าผู้ที่ออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นนั้นเพียง 2 นาที การเปรียบเทียบนี้เป็นจริงแม้ว่าผู้คนจะนั่ง 8.5 ชั่วโมงทุกวัน

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

สาเหตุของการนำไปสู่สภาวะซึมเศร้า

การนำไปสู่สภาวะซึมเศร้า สำหรับสภาวะซึมเศร้านั้นเป็นสิ่งที่เกิดจากสารในสมองไม่ปกติ เมื่อสารในสมองนั้นทำงานผิดปกติแล้ว จ้องเจอกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆนั้น ก็จึงนำไปสู่สภาวะที่เรียกว่าโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งสภาวะซึมเศร้านั้นเป็นสภาวะที่อาจจะรักษาหาย เพราะเป็นเหมือนโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง

โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เจ็บปวดหรือมีอาการป่วยทางด้านร่างกาย แต่เป็นความเจ็บปวดและอาการป่วยทางด้านของจิตใจนั่นเอง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกโดยตรง โดยเฉพาะผู้คนที่มีความเจ็บปวดโดยตรงทางด้านความรู้สึกที่ต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆที่กระทบกระเทือนจิตใจนั่นเอง ซึ่งสาเหตุที่นำไปสู่สภาวะซึมเศร้านั้นก็มีหลากหลายสาเหตุแตกต่างกันไป

ความเครียด เป็นสาเหตุหนึ่งและเป็นสาเหตุหลักๆที่นำไปสู่สภาวะการซึมเศร้าได้ เพราะเมื่อเรานั้นมีความเครียด สมองเรานั้นก็จะทำงานหนัก เมื่อสมองทำงานหนักมากขึ้น ก็ทำให้ร่างกายเรานั้นอ่อนแอและทำให้ความรู้สึกนั้นแย่ตามไปนั่นเอง ซึ่งความเครียดก็มีการแบ่งออกไปมากมาย โดยผู้ป่วยที่มีสภาวะซึมเศร้านี้นั้น

มักจะเครียดกับสิ่งต่างๆที่ต้องเจอหรือต้องจัดการในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจจะยังไม่วามารถหาทางออกหรือแก้ไขได้อย่างทันเวลา ทำให้นำสิ่งเหล่านั้นมาคิดซ้ำไปวนมา จนในที่สุดก็เกิดเป็นความเครียดสะสม เมื่อไม่มีการระบายความเครียดเหล่านี้ออกไปหรือวิธีจัดการนั้นก็เป็นสาเหตุนำพาไปสู่สภาวะของการซึมเศร้านั่นเอง

อาการป่วยต่างๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่สภาวะซึมเศร้า ซึ่งผู้ป่วยที่อาจจะป่วยด้วยโรคต่างๆนั้นก็มักจะมีความเครียดกับโรคนั้นๆ โดยเฉพาะในโรคที่ร้ายแรงและผู้ป่วยนั้นไม่สามารถที่จะยอมรับกับอาการป่วยที่ตนเองนั้นต้องเผชิญได้  ทำให้เกิดความอ่อนแอทางด้านจิตใจมากขึ้นและทำให้มีความทุกข์ใจ ในบางคนนั้นก็เกิดจากการที่ยอมรับไม่ได้ ร้องไห้ กดดัน และเครียดนำไปสู่การเก็บตัวและซึมเศร้าในที่สุด

สภาพแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสภาวะซึมเศร้า สภาพแวดล้อมหมายถึงสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่อยู่รอบตัว ยกตัวอย่างเช่น การอาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหา พ่อแม่มักทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ทำให้ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นเกิดการซึมซับและอาจจะทำให้สภาพแวดล้อมหล่อหลอมให้มีอาการป่วยทางจิตใจได้ด้วย สำกนับผู้ป่วยหรือมีสภาวะซึมเศร้าจากสภาพแวดล้อมนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้เกิดเป็นอาการป่วยที่อยู่ในจิตใจทำให้ผู้ป่วยนั้นมีจิตใจที่บอบช้ำ

การเสพสื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากสื่อและเทคโนโลยีต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย  แทงหวยออนไลน์ Huaydee   ทำให้สามารถที่จะดูหรือสื่ออะไรต่างๆบนโลกก็ได้ ในบางครั้งการดูสื่อต่างๆ ก็อาจจะเกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นในละครหรือวีดีโอต่างๆ เช่นการเสพสื่อหนังเศร้า เพลงเศร้า ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เกิดขึ้นและทำให้ผู้คนนั้นเกิดสภาวะซึมเศร้าได้