วิธีของการลดคอเลสเตอรอล

เมื่อพูดถึงไขมันแล้วนั้นคงจะทำหน้ายี๊กันเลยใช่ไหม เพราะความรู้สึกแรกเมื่อคิดถึงไขมันคือเจ้าไขมันนี่แหละเป็นตัวที่ทำให้มีรูปร่างผิดแปลกไปจากเดิม แต่อย่างไรก็ตามไขมันนั้นก็มีสิ่งที่ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายแบบทั้งไขมันที่ดีและไม่ดี และเราสามารถจัดการกับไขมันแต่ละประเภทได้อย่างไร ที่จะทำให้ไขมันนั้นไม่ทำร้ายร่างกายของเรา

ไขมันถือเป็นเรื่องใหญ่ของคนในสมัยนี้ หากเมื่อย้อนกลับไปสมัยก่อนนั้นในยุคที่เรายังไม่มีการเปิดบ้านเมืองมากขนาดนี้ สมัยนั้นคนก็จะทานแกงส้ม แกงไตปลา กินน้ำพริก กินปลาเผา และขนมอย่างมากก็ไอติม ลอดช่อง เฉาก๊วย แลเนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและเมืองร้อนการกินแบบเมืองร้อนไม่ทำให้อ้วน เมื่อวิทยาศาสตร์ไปไกลและวิวัฒนาการไปไกลบ้านเมืองมีการเจริญเติบโตขึ้น แน่นอนว่าโลกใบนี้

แคบลงเหลือนิดเดียว อาหารฝรั่งเข้ามายังบ้านเรา ทำให้อัตราความอ้วนหรือคนอวนในบ้านเราเพิ่มมากขึ้น อาหารฝั่งนั้นไม่ใช่อาหารที่ไม่ดีแต่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับเมืองหนาวเต็มไปด้วยแคลอรี่ที่มีทั้งชีส นม เนย เต็มไปด้วยสิ่งที่เราเผาผลาญออกมาได้ยาก เมื่อเรากำลังสุกกับการกินอาหารเหล่านี้แล้วนั้นโดยไม่รู้ตัวว่าอาหารเหล่านี้กำลังค่อยๆฆ่าเราหรือค่อยๆสะสมและเพิ่มขึ้นในร่างกาย ทำให้เกิดไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูงจำนวนมาก

คอเลสเตอรอล คือสารตัวหนึ่งที่อยู่ในอาหารการกิน ในร่างกายเราก็มีคอเลสเตอรอล ร่างกายเราใช้คอเลสเตอรอลย่อยเสร็จจะกลายเป็นสองอย่าง คือ ไขมันดีและไขมันไม่ดี ไขมันไม่ดีคือไขมันที่ติดกับหลอดเลือด ทำให้เป็นหลอดเลือดในสมองตีบ อัมพาต คนเลยนิยมหันมากินยาลดคอเลสเตอรอล ส่วนข้อดีของคอเลสเตอรอลนั้นคือ เป็นตัวประกอบของผนังกล้ามเนื้อเป็นตัวสร้างตัวแรกของฮอร์โมนส์เพศ นั่นหมายถึงว่าคอเลสเตอรอลมีทั้งดีและไม่ดี

การเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดในการลดคอเลสเตอรอลนั้นคือการคุมอาหาร การกิน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยมื้อเช้านั้นควรกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณเยอะๆ เพราะมือเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ  มื้อกลางวันควรกินปริมาณปกติ เช่น ข้าว1จาน ก๋วยเตี๋ยว1ชาม เป็นต้น

และมื้อเย็นไม่ควรกินแป้ง กินโปรตีนและผักแทน และสามารถเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและยั่งยืนที่สุด ร่างกายมนุษย์นั่นควรเรียงลำดับให้ถูกต้องและไม่มีใครรักเราเท่าตัวเรา การไปหาหมอหมอทำได้เพียงการชี้แนะแต่ตัวเรานั้นต้องมีระเบียบวินัยด้วย เมื่อกินอย่างถูกต้องแล้วนั้นไขมันจะค่อยๆลดและคอเลสเตอรอลจะค่อยๆลด

และสิ่งสำคัญหนึ่งคือการออกกำลัง การคาร์ดิโอหรือการออกกำลังกายหัวใจ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน หรือจอกกิ้ง และควรทำอย่างต่อเนื่อง 30 นาที และ 5 วันต่อสัปดาห์ เพียงการคุมอาหารและออกกำลังกายก็จะสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

เกล็ดความรู้การรับประทานอาหารที่ดี

ในวงการในสมัยเดิมพวกเราในฐานะนักโภชนาการนักวิจัยโภชนาการเชื่อว่าการรับประทานอาหารมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรี่ที่เรารับประทานก็คือว่าถ้ารับประทานแคลอรี่เท่านี่1พันแคลอรี่ออก1พันแคลอรี่เราก็จะเราก็จะไม่อ้วนอันนั้นมันเป็นความคิดในสมัยเดิมๆแต่ในปัจจุบันเราพบแล้วว่าการรับประทานอาหารถึงแม้ว่าปริมาณที่เราได้รับประทานอาหารเข้าไปมันยังคงเหมือนเดิม

โดยสิ่งที่มันจะเป็นกลไกลที่ทำให้ผลของมันนั้นมันไม่เหมือนเดิมก็คืออายุของเราที่เปลี่ยนไปรูปแบบการรับประทานที่เปลี่ยนไปกิจวัตรประจำวันที่เปลี่ยนแปลไปรวมวไปถึงระยะเวลาการนอนของแต่ละที่คนเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งในวันนี้เราก็ได้ข้อมูลมาจากงานวิจัยที่ได้ทำการตีพิมพ์ในเดือนนี้วิธีในการวิจัยก็คือว่าก็ได้เอาอาสาสมัครของกลุ่มนั้นเอามาเปรียบเทียบพฤติกรรมในการรับประทานอาหารเปรียบเทียบในช่วงระยะเวลาหนึ่งรับประทานอาหารแบบเดียวกันแต่ว่ารับประทานมื้อทุกท้ายตอน6โมงเย็นแล้วก็นอนตอน5ทุ่ม

เนื่องจากเราจะนำเอามาเปรียบเทียบในช่วงเวลาอีกแบบหนึ่งของคนๆเดิมโดยจะให้เขานั้นได้รับประทานช่วงตอน4ทุ่มแล้วพอรับประทานไปซักระยะหนึ่งก็นอนในตอน5ทุ่มในระยะเวลาเดียวกันทีนี้ในการศึกษานี้ผลของการศึกษานี้มันดูน่าสนใจ

เพราะว่าผลของการศึกษานั้นมันได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเวลาที่คุณนั้นได้รับประทานอาหารดึกถึงแม้ว่าแคลอรี่มันจะเท่ากับในช่วงระยะเวลาที่คุณนั้นได้รับประทานอาหารตอน6โมงเย็นหรือ1ทุ่มแต่ระยะเวลาของคุณในการรับประทานอาหารเสร็จแล้วคุณนอนมันสั้นและมันจะมีค่าของน้ำตาลในเลือดในแต่ละช่วงเวลา

นอกจากนี้มันจะบอกได้ว่าการรับประทานอาหารที่ปริมาณเท่าๆกันในระดับของการหลั่งอินซูลินมันไม่ได้มีความแตกต่างกันแต่ว่าในระดับของค่ากลูโคสมันแตกต่างกันภาวะลักษณะนี้มันจะเกิดขึ้นในคนที่เป็นภาวะดื้อต่อออินซูลินก็คือปริมาณอินซูลินมันยังคงทำงานแต่ว่าควบคุมระดับน้ำตายไม่ดี

ดังนั้นในความหมายในนัยของงานวิจัยนี้มันก็แสงดงให้เห็นว่าถ้าช่วงระยะเวลาการรับประทานอาหารของคุณมื้อสุดท้ายก่อนที่คุณนั้นจะขึ้นนอนเพราะบางคนขึ้นนอนแล้วยังไม่ได้นอนทันทีและในช่วงระยะเวลาที่คุณได้รับประทานมื้อสุดท้ายแล้วขึ้นนอนมันค่อนข้างที่จะสั้น

ซึ่งมันจะทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายมันจะเข้าสู่ในระยะที่เราเรื่องว่าไฮเบอร์เนตหรือว่าใกล้ๆที่จะนอนหลับไปแล้วการเผาผลาญนั้นมันจะลดลงแล้วถ้ากิจกรรมเหล่านี้รับประทานดึกแล้วนอนเร็วคือช่วงระยะเวลากับการนอนมันห่างกันแค่แบบเดียวมันก็จะส่งผลทำให้คุณน้ำหนักขึ้นแล้วก็ในระยะยาวในเลือดของคุณก็จะเลี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

สุขภาพดีเริ่มต้นอย่างไร

สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีนั้นจะต้นเริ่มต้นที่ตัวเราหรือการเริ่มต้นร่างกายนั้นมันมีอยู่หลายอย่างมากบอกเลยว่าการที่คนเราจะมีสุขภาพที่ดีลองคิดภาพว่ามันเป็นเหมือนวงกลมมันจะต้องมีองค์ประกอบในแต่ละอย่างในแต่ละสิ่งที่มันจะเข้ามามีความเกี่ยวข้องมันเหมือนกับว่ามันได้เป็นขาของโต๊ะเราบอกขานี้ดีเราบอกโต๊ะมันมี4ด้าน

ถ้า3ขามันไม่ดีก็จะล้มลงไปมันก็จะไม่ประสบความสำเร็จการจะมีสุขภาพที่ดีมีอายุยืนยาว “แบบมีคุณภาพ” ไม่นั่งรถเข็นไม่นั่งบนเตียงไม่เป็นภาระลูกหลานองค์ประกอบหลักๆของการมีสุขภาพที่ดีมันคือการนอนหลับที่ดีการกินอาหารที่ดีการออกกำลังกายที่ดีการมีสุขภาพจิตที่ดีการจะทำให้ดีข้างในจะต้องแข็งแรงข้างในแข็งแรงเมื่อไหรข้างนอกมันก็จะสะท้อนออกมาให้เห็นผิวพรรณที่ดีให้เห็นเส้นผมที่ดีเห็นเล็บที่ดีเห็นความร่าเริงเห็นความแจ๋มใส

ซึ่งเราจะรู้มันได้อย่างไรว่าข้างในนั้นมันจะดีหรือว่ามันไม่ดีเครื่องมือทางการแพทย์เขาก็ได้มีการพัฒนากันมาตั้งแต่ทำการตรวจได้เพียงน้อยๆจนปัจจุบันนี้เราสามารถที่จะทำการตรวจมันได้ทุกๆอย่างเลยทั้งนี้เขาได้มีการวิจัยเครื่องมือโดยในหลายๆชาติอย่างที่เขาได้มีการวิจัยขึ้นมาว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเจ็บป่วยหรือเราจะมีวิธีการในการป้องกันมันยังไง

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สายนี้พัฒนาไปไกลมากไม่ว่าจะเป็นการเจาะดูตับเจาะไตดูไขมันในเลือดดูหลอดเลือดหัวใจดูการย่อยอาหารดูแบตทีเรียในลำไส้มันมีอยู่กี่ตัวดูเซลล์สมองความจำเหลือน้อยไหมกลัวจะเป็นอัลไซเมอร์กลัวจะเป็นพาร์กินสันดูเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อต้านหรือสู่กับมะเร็งมีเยอะหรือว่ามันมีอยู่น้อย

ซึ่งแสดงว่าในปัจจุบันการตรวจเลือดนั้นมันสามารถลงไปได้จนถึงว่าคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายคุณพ่อคุณคคุณให้พันธุ์กรรมโรคอะไรของเรามาบ้างแสดงว่าในสิ่งนี้เองมันได้มีคำศัพท์เกิดขึ้นมาใหม่คือPERSONALIZED MEDICINEแปลเป็นไทยก็คือ การรักษาเฉพาะคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น

เนื่องด้วยทางวิทยาศาสตร์เขาได้มีการวิจัยมาแล้วว่าไม่มีมนุษย์คนไหนเหมือนกันเลยแสดงว่าเรากินยาสูตรเดียวกันทุกคนในโรคนี้ไม่ได้ PERSONALIZED MEDICINEก็คือการรักษาโดยการนำเอาผลเลือดทั้งหมดและผลการวิจัยและผลพันธุ์กรรมมาดูว่าร่างกายของคุณนั้นมันขาดอะไร

หากขาดอะไรไปเราก็ต้องไปซ้อมที่ต้นเหตุนั้นๆความMAMMOGRAMหรือพัฒนาหรือความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ไปไกลมากๆจนเราทำได้ถึงเซลล์และฮอร์โมนเครียดเรายังเจาะได้อีกด้วยในสมัยนี้

โรคคางทูมที่เราต้องเตือนลูกหลาน 

โรคคางทูมนั้นเป็นโรคติดต่อ ลักษณะนั้นเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ตรงคางเป็นตุ่มก้อนๆเพราะว่าเคยที่ระบาดหนักอย่างมากในค่ายทหารและโรงเรียน และก็พบมากที่สุดนั้นในเชียงใหม่   เชียงราย  ลำพูน  ภูเก็ต  แม่ฮ่องสอน  แนะพ่อแม่พาไปฉีดวัคซีนป้องกัน  เพราะว่าโรคคางทูมนั้นเป็นโรคที่เรานั้นสามารถที่ติดกันได้กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือกลุ่ม 15-24 และก็มักจะพบมากในกลุ่มนักเรียน

จังหวัดที่เรานั้นพบผู้ป่วยนั้นมาก คือ เชียงใหม่  เชียงราย  ลำพูน  ภูเก็ต  และแม่ฮ่องสอน  จากการที่เรานั้นตรวจสอบข่าวการระบาดจากฐานข้อมูล  เฝ้าระวัง เหตุการณ์ พบรายงานการระบาดของโรคคางทูมเป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ คือ ในค่ายทหาร และในโรงเรียน ในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มก้อนได้ โดยเฉพาะในสถานที่มีคนนั้นอาศัยรวมกัน หนาแน่น และพื้นที่มีครอบคลุมของการที่เรานั้นฉีดวัคซีนป้องกันโรค 

อาการของโรคคางทูม  โรคคางทูมนั้นเป็นโรคที่ติดต่อทางเดินหายใจและก็มีการที่ผัสผัสจากการที่เรานั้นกินร่วมกันของผู้ป่วย อาการของโรคคางทูมที่เรานั้นพบเห็น 

  • เริ่มจากที่เรานั้นจะมีไข้ต่ำๆ
  • ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว 
  • มีอาการที่เรานั้นเจ็บหน้าหูและขากรรไกร
  • มีต่อมน้ำลายข้างกกหูโตขึ้น
  • มีอาการที่เรานั้นเจ็บบริเวณแก้มและหู  

การรักษาโรคคางทูม  ในปัจจุบันนี้โรคคางทูมนั้นเราต้องรักษาตามอาการเพราะว่าเกิดจากการที่ขากรรไกรนั้นเกิดอาการอักเสบ บวม และเมื่อเรานั้นเป็นก็ควรที่จะหยุดไปโรงเรียนหรือว่าไปทำงาน  

คางทูมนั้นเราป้องกันง่ายๆด้วยวัคซีน  

เดี่ยวนี้ในปัจจุบันนั้นการที่เรานั้นจะเป็นโรคคางทูมนั้นเราก็ควรที่จะฉีดวัคซีนเพื่อที่จะป้องกันเพราะว่าเดียวนี้นั้นมียาป้องกันวัคซีนกันแล้วตั้งแต่เมื่อเด็กนั้นเกิดส่วนที่ใครนั้นเป็นก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการที่เรานั้นจะไปอยู่กับหมู่คนนั้นเยอะๆและก็ไม่ควรที่จะไปใช้ของร่วมกับคนอื่นเพื่อที่จะไม่ไปแพร่เชื้อโรคให้คนอื่นนั้นเป็นถ้าเป็นไปได้ในขณะที่เรานั้นเป็นควรที่จะใช้ของนั้นแยกออกเพื่อความที่จะไม่ให้คนที่อยู่ในบ้านนั้นต้องติดเหมือนกับเราอย่างเช่นเรื่องผ้าขนหนู  หรือว่าแก้วน้ำ  จานข้าว  ช้อน ส้อม อย่างนี้เป็นต้น

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงแต่ว่าการที่เรานั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อที่ไม่ให้ผู้อื่นนั้นเป็นเพิ่มหน้าจะดีกว่า เพราะว่าวัคซีนเดียวนี้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ เมื่อเด็กนั้นมีอายุ 9-12 เดือน  และก็ต้องฉีดซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 2 ปี 6 เดือน สามารถป้องกันโรคนี้ได้ตลอดชีวิต 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  alpha88