วิธีการพักผ่อน ที่ถูกต้อง สำหรับคนที่รู้สึกเหนื่อยล้า

ส่วนใหญ่ทางการแพทย์ที่นอนดึกก็คือการนอนน้อยกว่า8ชั่วโมงต่อวันและร่วมกับนอนหลังเวลาประมาณสี่ทุ่มอย่างนี้มันถึงว่าเรียกว่านอนดึกและนอนน้อยบวกกับนอนก่อนเวลาสี่ทุ่มเป็นหลัก ซึ่งในเมื่อก่อนั้นเราก้ไม่เคยที่จะมองเห็นความสำคัญแต่พอมาในระยะหลังๆมานี้เราลองไปเชื่อทฤษฎีในส่วนนี้ดูและได้นำเอามาอ่านดู

ก็จะเห็นเลยว่าหน้าของเรานั้นจะดูเด็กลงไม่ได้ชมตัวเองแต่ก็ได้มีคนมาบอกว่าเรานั้นหน้าเด็กลงซึ่งเราก็เลยย้อนกลับไปดูรูปของตัวเองว่ามันเด็กลงเร็วอะไรขนาดนี้ ซึ่งมันก็มีอีกเหตุผลหนึ่งนอกจากที่เรานั้นได้ออกกำลังกายแล้วกินโปรตีนเยอะแล้วและอีกหนึ่งเรื่องก็คือการนอนเร็วซึ่งเราได้พยายามนอนให้มันเร็วขึ้นมาประมารหลายปี

ซึ่งนอาการนอนไม่หลับนั้นจะประมาณตี2ตี3 วิ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ดูปกติแต่สุดท้ายแล้วหน้าของเราก็จะดูแก่เร็วมันจะทำให้หน้าของเรานั้นแก่เร็วดังนั้นสิ่งที่เราอยากจะเน้นเลย ซึ่งแรกมันเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดมะเร็ง และในส่วนข้องที่สองแก่เร็วในเวลาที่คุณนอนดึกคุณก็จะแก่เร็วมากขึ้น คำว่าแก่เร็วนั้นบางคนก็อาจจะบอกว่าไม่จริงเราก็ยังหน้าเด็กอยู่เลยถึงแม้จะนอนน้อย

เราก็อยากจะบอกแบบนี้ว่าในคำว่าแก่เร็วของเรานั้นเราอยากจะบอกว่าร่างกายของเรานั้นมันได้มีความเสื่อมโทรมลงจากภายในอย่างเช่นเวลาที่ร่างกายของคุณนั้นแก่ลงเร็วเพียงแค่คุณนั้นเดินขึ้นลงบันไดคุณก็จะรู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้วเวลาร่างกายของคุณนั้นแก่ลงเร็วเวลาร่างกายของคุณเดินทางไกลหรือออกกำลังกายและคุณนั้นได้ฟื้นตัวช้าเวลาที่เรานั้นแก่ลง

ลักษณะบางอย่างของเรานั้นจะโชว์ขึ้นมาทันทีเลยอย่างเช่นปกติออกกำลังกายไม่เคยเมื่อยอะไรขนาดนี้และคุณก็จะเริ่มเมื่อยมากขึ้นเวลาที่คุณนั้นแก่ลงเวลาที่คุณนั้นกำลังคิดอะไรบางอย่างความคิดของคุณจะไม่ค่อยโรจแล่น

ซึ่งอันนี้ก็เรียกได้ว่าแก่ลงเหมือนกันเวลาที่คุณแก่ลงจากภายในคุณจะรู้สึกว่าตัวคุณเองนั้นไม่ค่อยจะกระฉับกระเฉงและถ้าหากว่าใครที่เป็นอยู่หรือกำลังที่จะเป็นนั่นมันก็แสดงว่าตัวของคุณเองนั้นมันเริ่มแก่ลงแล้วและอย่างใครที่เป็นหมอหรือพยาบาลมันก็ไม่มีอะไรที่จะเข้ามาทดแทนในส่วนของตรงนี้ได้เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรที่มันจะเข้ามาทดแทนได้อย่างร้อย%

 

สำหรับเรื่องแก่เร็วนั้นมันได้มีอยู่อีกเรื่องหนึ่งเวลาที่เรานั้นนอนดึกหลังสี่ทุ่มที่จริงแล้วเวลาสี่ทุ่มถึงตี2นั้นมันเป็นช่วงที่โกรทฮอร์โมนหรือฮนร์โมนในการเจริญเติบโตหรือในฮนร์โมนแห่งความเยาว์วัยมันได้หลั่งออกมาได้มากสุดบางคนถามเข้ามาว่าบางคนนั้นนอนดึกมันก็ไม่หลั่งเลยมันไม่ใช่มันไม่มีอะไรที่ทางการแพย์ที่เป็นศูนย์ไม่มีอะไรทางการแพทย์ที่เป็นศูนย์และต่อให้คุณนั้นไม่นอนเลยโกรทฮอร์โมนมันก็จะหลั่งออกมานิดหน่อยแต่มันก็จะหลั่งออกมาไม่เยอะ เมื่อได้เปรียบเทียบกับการนอนก่อนสี่ทุ่ม

หรือ อาจจะเริ่มตั้งแต่สี่ทุ่มดังนั้นในเวลาที่บางคนนั้นได้คิดบางคนอาจจะคิดว่ามันจะมีแค่เพียงศูนย์กับหนึ่งหรือมันจะมีคำว่าได้กับไม่ได้เลยมันไม่จริงมันมีคำว่าช่วยกับไม่ช่วยทำให้คุณนั้นประสบความสำเร็จหรือป่าว อย่างเช่นการนอนสี่ทุ่มมันช่วยให้โกรทฮอร์โมนได้หลั่งออกมามากขึ้น

แต่ถ้าคุณนั้นนอนหลังสี่ทุ่มโกรทฮอร์โมนมันก็หลั่งแต่มันหลั่งออกมาน้อยลง เหมือนกันเมื่อคุณนั้นกำลังพยายามที่จะเปรียบเทียบเรื่องนี้ก็ลองย้อนกลับไปตอนที่ลดความอ้วนเช่นกัน ซึ่งขอให้คุณนั้นได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็พอเพราะใน90%ของการลดความอ้วนเกิดจากการคลุมอาหารการออกกำลังกายเพียงแค่10%เท่านั้น

ดังนั้นคุณก็ไม่ควรที่จะไปคิดเครียดกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้น้ำหนักขอมันเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นแบบนั้นเป็นต้น นอกจากนี้การที่เรานั้นได้นอนเร็วแต่เรานั้นนอนไม่หลับ นอนเร็วแต่นอนไม่หลับซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าโกรทฮอร์โมนมันไม่หลั่งเลยหรอ ซึ่งโกรทฮอร์โมนมันหลั่งแต่มันก็อาจจะหลั่งน้อยลงเมื่อเรานั้นหับไม่ค่อยสนิดและมันก็จะหลั่งน้อยมากขึ้นถ้าหากว่าคุณนั้นยังนอนดึกแบบนี้อีกเป็นต้นและนอกจากนี้หากเราได้นอนดึกมาขึ้นเรื่อยๆทุกวันมันก็จะทำให้ร่างกายของเรานั้นแย่ลงมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเลยอยากจะบอกว่าคุณนั้นมองเห็นในความสำคัญของสุขภาพหรือไม่

และคุณนั้นยังยอมแลกเพื่อให้ตัวคุณนั้นได้ทำอะไรบางอย่าง ซึ่งหากใครที่ได้ทำงานโรงงานก็คงจะต้องยอมรับสภาพตรงนั้นไปคุณนั้นไม่ต้องไปเครียดกับมันและมันจะต้องทำอย่างไรจะต้องออกจากงานหรือไม่ก็ไม่ต้องออกจากงานก็คือดูแลสุขภาพต่อไปไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนในวันหยุดเราก็สามารถชดเชยมันได้เล็กน้อยถึงแม้ว่ามันจะได้ไม่มากแต่อย่างไรก็อย่าได้เครียดเราก็ต้องยอมรับสภาพตรงจุดนี้ด้วย

วันนี้เราก็ได้มีสาระดีๆมามอบให้กับทุกคนเช่นเคยและในวันนี้จะเป็นในเรื่องของน่าทึ่งมาก เมื่อเรานั้นได้กินขิงทุกวันเป็นระยะเวลาประมาณ1เดือนและไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะเกิด ซึ่งนี้กับร่างกาย 

สำหรับชาวอินเดียและชาวเอเชียได้นิยมใช้ขิงในการเป็นส่วนประกอบของอาหารและ นอกจากนี้มันได้มีสรรพคุณที่จะเป็นยาที่ได้มีการใช้มาอย่างยาวนานนับปี ขิงถือได้ว่ามีคุณประโยชน์ที่เยอะมากต่อสุขภาพ อย่างเช่นบรรเทาอาการปวดด้านของปัญหาในการย่อยอาหารและได้ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ รากของขิงได้เป็นส่วนที่ได้มีการนำเอามานิยมใช้กันเป็นอย่างมากที่สุดและมันยังได้มีคุณประโยชน์สูง

และยังสามารถนำเอามาบริโภคแบบแห้งเป็นเครื่องเทศเป็นแบบผงแบบสดเป็นน้ำผลไม้หรือนำเอามาทำเป็นน้ำมันก็ได้ สำหรับเหตุผลที่เราควรบริโภคขิงอย่างถูกวิธีได้มีดังนี้ เหตุผลข้อที่1 ขิงช่วยบรรเทาอาการปวดตามที่มหาวิทยาลัยของรัสจอร์เจียได้ศึกษาวิจัยพบว่า ขิงสามารถช่วยบรรเทาของอาการปวดกล้ามเนื้อได้ถึงประมาณ25%และยิ่งไปกว่านั้นความที่น่าอัศจรรย์ของรากขิงยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและช่วยลดอาการรุกรามของการปวดกล้ามเนื้อ

เหตุผลข้อที่2ขิงได้ช่วยลดระบบคอเลสโตลอน 45วันในการศึกษาวิจัยได้มีการนำเอาผู้ป่วยที่มีระดับคอเลสโตลอนสูงจำนวนประมาณ85คนบริโภคขิงประมาณ3กรัมทุกวันพอว่าทำให้ระดับคอเลสโตลอนลดลง นักวิจัยได้มีการชี้ให้เห็นว่ามันยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้อีกด้วย

เหตุผลข้อที่3ขิงยังช่วยบรรเทาในด้านปัญหาของการย่อยอาหาร ขิงมีสารฟรีออน ซึ่งได้ช่วยบรรเทาของอาการอักเสบด้านระบบทางเดินอาหารและมันยังช่วยเข้าไปกระตุ้นผลิตน้ำดีและน้ำลายที่ได้ช่วยส่งผ่านไปยังทา

งเดินอาหารและในส่วนที่เป็นของเหลวก็ผ่านทางเดินอาหารแล้วยังได้มีการศึกษาทำการวิจัยแล้วพบว่าในส่วนของจำนวน24คนก็ได้มีการพบว่าการรับประทานขิง1.2กรัมก่อนที่จะรับประทานมื้ออาหารได้ช่วยเร่งกำจัดของเสียที่มันอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งได้ช่วยลดอาการของอาหารไม่ย่อยลงได้ถึง50%

เหตุผลข้อที่4ขิงช่วยต่อต้านของอาการอักเสบโรคของข้อกระดูกอักเสบได้เป็นปัญหาที่ได้เกิดขึ้นทุกๆวันและมันเป็นอาการเสื่อมของข้อต่อ ซึ่งจะนำไปสู่ความเจ็บปวดในข้อต่อที่ร้ายแรงการวิจัยที่ได้มีการผ่านมาของคนที่ได้เป็นโรคข้อกระดูกอักเสบจาก247คนนั้นได้พบว่าคนที่ได้รับประทานขิงอย่างเป็นประจำได้มีการใช้ยาที่น้อยลงและอาการที่เ๗้บป่วยของพวกเขาก็ลดลงด้วยเช่นกัน

  เชื่อว่าทุกคนต่างก็คงอยากมีสุขภาพที่ดี  แต่เนื่องจากปัจจุบันนั้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหารการกินการเดินทางรวมถึงบางคนก็ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเข้าโรงยิมเพื่อออกกำลังกายเรื่องนั้นปัจจัยหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายของเราทรุดโทรมแต่ถ้าหากเราอยากมีสุขภาพที่ดีเราก็สามารถทำได้โดยทำสิ่งต่างๆต่อไปนี้รับรองสุขภาพจะดีแน่นอน

           อย่างแรกเลยเราควรดูแลตนเองเรื่องการเลือกรับประทานอาหารเพราะเราไม่สามารถพูดได้ว่าอาหารนั้นไม่มีความสำคัญเพราะโดยปัจจัยพื้นฐานหลักแล้วอาหารมีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมากอาหารที่เราเลือกกินในแต่ละวันแต่ละมื้อนั้นจะมีผลทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงหรือร่างกายของเรามีโรคมากขึ้นก็ขึ้นอยู่กับการที่เราเลือกกินอาหารบางคนเฒ่ากินอาหารประเภทปิ้งย่าง

ก็จะทำให้ร่างกายมีโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายแต่ขณะที่บางคนมีการเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์กินผักและผลไม้เป็นหลักอาหารครบ 5 หมู่ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพที่ดีได้ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย   อีกทั้งนอกจากเรื่องอาหารการกินแล้วการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน

เราไม่จำเป็นต้องไปออกกำลังกายตามโรงยิมต่างๆก็ได้หากเราไม่มีเวลาการเดินอยู่ในสวนภายในบ้านหรือแม้แต่การเต้นแอโรบิคอยู่หน้าบ้านปากบ้านถูบ้านสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนถือว่าเป็นการออกกำลังกายทั้งสิ้น การที่เราจะมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีนั้นเราควรมีการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 15 ถึง 30 นาทีเพื่อให้ร่างกายของเราได้แข็งแรง

และที่ขาดไม่ได้เลยคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพราะตั้งแต่เช้ายันค่ำร่างกายของเราต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้ามากมายการทำงานที่เครียดจนเกินไปรวมถึงการเดินทางที่เราต้องฝ่าฟันเกี่ยวกับรถติดเมื่อถึงเวลาที่ต้องนอนหลับพักผ่อนเราจึงควรนอนให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการซึ่งการนอนที่ดีนั้นอย่างน้อยควรมีการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน

แต่ถ้าหากทำไม่ได้จริงๆต้องไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงเพราะร่างกายจะได้ไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและที่สำคัญที่สุดเราไม่ควรนอนเกิน สี่ทุ่มเพราะในช่วงสี่ทุ่มนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนและคอลลาเจนขึ้นมาซึ่งจะทำให้ริ้วรอยของเรามีน้อยและเมื่อเราได้นอนเพียงพอแล้วตื่นเช้าขึ้นมาจะทำให้เราสดชื่นสามารถพร้อมรับปัญหาในวันใหม่ได้อย่างดี

การอาบน้ำเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะอาบน้ำเย็นหรืออาบน้ำอุ่นเพราะตอนนี้เรามีเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีการจำหน่ายออกมาสามารถที่จะช่วยให้เราไม่ต้องทนกับการอาบน้ำเย็นๆอีกต่อไปยิ่งเฉพาะในหน้าหนาวแล้วก็เครื่องทำน้ำอุ่นและมีประโยชน์กับเราอย่างไรเพราะแทบทุกบ้านที่มีการติดเครื่องทำน้ำอุ่นต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่นฟังรายการอาบน้ำ

โดยเฉพาะในฤดูหนาวแต่คุณรู้หรือไม่ว่าการอาบน้ำเย็นนั้นก็มีประโยชน์กับร่างกายของคุณได้เหมือนกันถ้าหากคนพอที่จะทนอาบน้ำเย็นได้แล้วก็ช่วยส่งผลดีให้กับร่างกายของคุณยิ่งขึ้นมาดูประโยชน์ของการอาบน้ำเย็นกันว่ามีอะไรบ้าง

1. ว่ากันว่าการอาบน้ำเย็นสำหรับเพศชายนั้นจะช่วยเพิ่มอสุจิให้กับร่างกายได้แต่ในขณะเดียวกันถ้าไปถึงอาบน้ำอุ่นเมื่อไหร่ก็จะมีปริมาณลดลงอย่างนั้นหากใครก็ตามที่อยู่ในช่วงของการต้องการมีบุตรควรให้ฝ่ายชายอาบน้ำเย็นเป็นประจำทุกวันปริมาณอสุจิจะได้เพิ่มมากขึ้น
2. การอาบน้ำเย็นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นสมองหรือร่างกายจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายหายเครียดฉะนั้นหากใครที่มีอาการของโรคซึมเศร้าควรจะมีการอาบน้ำเย็นเป็นประจำเพราะการอาบน้ำเย็นจะสามารถช่วยรักษาอาการของโรคซึมเศร้าได้ดีพอๆกับการกินยารักษาเลยทีเดียว
3. การอาบน้ำเย็นนั้นช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ยินยิ่งขึ้นเนื่องจากว่าน้ำเย็นที่มาถูกร่างกายของเราจะไปช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายทำให้ร่างกายการส่วนเกินและยังช่วยในเรื่องของธรณีได้ดีอีกด้วยดังนั้นหากใครต้องการผอมควรจะอาบน้ำเย็น
4. สำหรับข้อนี้เป็นข้อที่คนรู้กันดีอยู่แล้วว่าการอ่านเย็นนั้นจะช่วยให้ผิวพรรณแลดูมีสุขภาพดีไม่หยาบกร้านเหี่ยวย่นง่าย ที่สำคัญไม่เป็นขุยอีกทั้งยังสามารถช่วยดูแลสุขภาพผมให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกันเพราะการสระผมด้วยน้ำเย็นนั้นจะช่วยให้ผมไม่แห้งกรอบง่ายๆ
5. การอาบน้ำเย็นจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายและระบบประสาททุกสัดส่วนของเราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาดังนั้นตื่นเช้าขึ้นมาในขณะที่เรางัวเงียหากได้น้ำเย็นมาชำระล้างร่างกายก็จะช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวและผ่อนคลายพร้อมที่จะไปทำงานได้โดยที่ไม่ง่วงนอน 
6. หรือไม่ว่าการอาบน้ำเย็นก็สามารถทำให้เรานอนหลับฝันดีได้เช่นเดียวกันหลายคนมองว่าการอาบน้ำเย็นนั้นจะทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาหลายคนคิดว่าอาจจะทำให้นอนหลับยากแต่จริงๆแล้วหากเราอาบน้ำไปสักพักนึงร่างกายของเราก็จะมีการให้พอหลังจากนั้นหากเข้านอนก็จะทำให้เรานอนหลับได้อย่างสนิทและหลับฝันดีได้ด้วย

 เห็นไหมคะว่า น้ำเย็นก็มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนั้นหากใครที่สามารถที่จะอดทนได้แนะนำว่าจะทำให้ผิวพรรณของเราสดใสไม่อยากร่านรวมถึงทำให้จิตใจของเราสดชื่นแจ่มใสพร้อมกับการที่ต้องออกไปทดสอบกับความตึงเครียดทุกๆเช้าได้อย่างดี 

อาหารหลายๆอย่างที่เรานั้นทางไปบางชนิดก็สามารถที่ทำให้เราเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เช่นกันแต่ในขณะเดียวกันบางชนิดก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วยดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาท้องอืดท้องเฟ้ออยู่ในขณะนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถช่วยลดบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อหรืออาหารไม่ย่อยได้บ้าง

โดยอาหารเหล่านี้สามารถสังเกตได้ง่ายๆว่าอะไรก็ตามแต่ที่จะสามารถเข้ามาช่วยให้เราลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้และได้มีการพูดถึงอยู่บ่อยครั้งว่าอาหารที่สามารถจะช่วยให้เรานั้นหายท้องอืดท้องเฟ้อได้โดยมีดังนี้นั่นก็คือ

มะเขือเทศ

เพราะนอกจากมะเขือเทศนั้นจะมีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเราแล้ว นอกจากนั้นมะเขือเทศยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อให้เราได้อีกด้วย เพราะในมะเขือเทศนั้นมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมันจะสามารถเข้าไปช่วยลดปริมาณของโซเดียมในร่างกายของเราได้นั่นเอง สาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อของเรา หรือท้องป่องหรือแม้แต่ภาวะอาการที่เกิดจากการบวมน้ำ ชอบมะเขือเทศสดๆก็สามารถเลือกทานได้เลย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบแบบสุดๆก็สามารถกินได้แบบน้ำมะเขือเทศนั่นเอง เพราะมันก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน

สับปะรด

สำหรับสับปะรดนะเหมาะกับผู้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อแน่นท้อง ที่เกิดขึ้นจากการรับประทานเนื้อสัตว์มากจนเกินไป เราแนะนำให้ท่านสามารถทานสับปะรดตามเข้าไปได้ เกินมา 2-3 ชิ้นในขณะที่เป็นกลางๆ หรืออาจจะดื่มน้ำสับปะรดปั่นประมาณครึ่งของลูกเล็กก็ได้เช่นกัน เพราะเนื่องจากเอนไซม์โบรมิเลนในสับปะรดนะ เป็นการช่วยย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์กินเอง โดยสามารถทำให้มีขนาดโมเลกุลที่เล็กลงมาได้ ซึ่งสามารถส่งทำให้ระบบในการย่อยเนื้อสัตว์เหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเอนไซม์ในสับปะรดนั้นก็ยังมี สรรพคุณที่เป็นการช่วยกระตุ้นระบบของการย่อยอาหาร และเป็นการสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย

แตงกวา

สำหรับแตงกวาหนังในน้ำมันมีส่วนประกอบอยู่เยอะมาก อีกครั้งมันยังมีไฟเบอร์ที่เป็นการช่วยกระตุ้นในเรื่องของ ระบบย่อยอาหารซึ่งส่งผลให้การย่อยอาหารที่เรากินเข้าไปจะเป็นการถูกย่อยให้เร็วขึ้น นอกจากนี้น้ำจะแตงกวายังจะช่วยในเรื่องของ ช่วยให้ร่างกายของเรานั้นได้ขับโซเดียม เพื่อลดอาการที่เกิดจากการทำให้ท้องป่องและท้องอืดได้อีกด้วย สามารถจะทานแตงกวาไปพร้อมกับอหารหรืออาจจะเป็นกับแกล้มอาหารก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นเรายังสามารถนำแตงกวาไปปั่นสมูทตี้ เพื่อเป็นการผสมน้ำผึ้งทำให้เกิดรสชาติดีขึ้นได้เช่นกัน

ญาติของผู้ป่วยเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถหาวัดที่รับสวดศพได้แล้ว

     จากกรณีที่ลูกชายของเหยื่อการติดเชื้อไวรัสโคโรน่ามันเป็นผลทำให้ถึงแก่ความตายได้ออกมาบอกกล่าวเรื่องราวถึงเรื่องที่น่าเศร้าใจของประเทศไทยอยู่ในตอนนี้ว่าแม้แต่วัดและพระสงฆ์ก็ยังไม่เปิดรับผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเหตุเพราะกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโดยลูกชายของผู้เสียชีวิตได้ออกมาเล่าว่าหลังจากที่พ่อได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าทั้งครอบครัวก็ได้เดินทางไปหาวัดที่จะนำศพไปบำเพ็ญกุศล

รวมถึงเพื่อทำการเผาศพให้บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นปรากฏว่าไม่ว่าจะไปติดต่อวัดไหนก็ไม่มีวัดไหนยอมรับที่จะให้มีการนำศพเข้ามาสวดจนรู้สึกท้อใจขนาดที่ออกมาโพสต์ระบายความรู้สึกจนเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โตหลังจากที่มีข่าวออกมามากมายเกี่ยวกับการที่วัดปฏิเสธไม่รับจัดงานศพให้กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นปรากฏว่าล่าสุดรูปของคนตายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ออกมาบอกกล่าวกับสื่อมวลชนและประชาชนโดยทั่วกัน

และว่าปัจจุบันนี้มีวัดที่เขตมีนบุรีในกรุงเทพฯชื่อว่าวัดใหม่ลำนกแขวกได้ออกมาประกาศให้ทางญาติสามารถนำศพเข้าไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแห่งนี้ได้โดยทางพระที่จะดำเนินการสวดอภิธรรมศพให้นั้นก็จะมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อและหากใครจะมาร่วมงานพิธีเผาศพก็จะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยกันทุกคนซึ่งทุกคนจะต้องมีการเว้นระยะห่างในการนั่งฟังสวดศพเป็นระยะ 1 เมตรด้วยกันเลยทางนี้ทางวัดก็จะมีการจัดงานศพให้ประมาณ 3 วัน

ซึ่งกว่าจะหาวัดที่จะยอมรับการเผาศพของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโรต้าได้นั้นค่อนข้างยากดังนั้นถ้าหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมากที่สุดรองจากแพทย์และพยาบาลก็คือพระในวัดนั่นเองที่จะต้องมานั่งสวดอภิธรรมให้กับศพและยังจะกลายเป็นสถานที่ที่อาจจะส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้

เพราะญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตก็จะต้องมานั่งฟังสวดศพซึ่งก็จะต้องไปนั่งรวมกันหลายคนดังนั้นหากไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียแบบนี้เกิดขึ้นคิดว่าประชาชนทราบกันดีอยู่แล้วว่าตนเองจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ให้กับตัวเองอยู่แต่ในบ้านก็ควรที่จะทำสำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของชายรายนี้เป็นคนที่ 2 ของประเทศแล้วที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าโดยเขาเสียชีวิตเนื่องจากเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายระบบใดในระบบปอดของเขาเนื่องจากว่าเขามีประวัติเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นโรคปอดมาก่อน 

มหาลัยกรุงเทพถูกสั่งให้ปิด 14 วันเพื่อทำความสะอาดดังจากไม่พบว่านักศึกษาคนหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด 19 

ทางโรงเรียนมหาลัยกรุงเทพฯมีนักศึกษาคนหนึ่งได้ติดเชื้อและนักศึกษาคนที่ป่วยเป็นโรคเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อดังนั้นนักศึกษาสาวคนนี้จึงได้ทำการเรียนหนังสือต่อโดยที่เธอไม่รู้ตัวว่าเธอติดเชื้อทำให้เธอได้ทำการแพร่เชื้อกับเพื่อนๆของเธอในห้องเรียนและผมเธอซึ่งหลังจากที่ทางโรงเรียนพบว่ามีเด็กนักเรียนในโรงเรียนเปิดเป็นโรคโควิด 19 ก็ได้ทำการประกาศว่าปิดโรงเรียนกี่วัน

เพื่อทำความสะอาดโรงเรียนให้สะอาดจนนักเรียนสามารถกลับมาเรียนใหม่ได้ซึ่งนักศึกษาหลายๆคนในโรงเรียนที่อยู่ชั้นเดียวกับนักศึกษาสาวคนนั้นก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด 19 มาจากเพื่อนเหมือนกันดังนั้นทางโรงเรียนจึงขอให้เด็กๆที่อยู่ชั้นเดียวกันกับนักศึกษาสาวญี่ปุ่นเชื้อไวรัสโควิด 19 .shกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อที่จะได้สังเกตอาการของตัวเองว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือเปล่าซึ่งทางโรงเรียนมหาลัยกรุงเทพฯปิดมหาลัยในวันที่ 14 เดือนมีนาคมจนถึง 27 เดือนมีนาคมของปีนี้

และในระหว่างที่ทำการปิดโรงเรียนก็จะให้พนักงานฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามสถานที่ต่างๆทั่วมหาลัยหลังจากที่ทำการฆ่าเชื้อโรคต่างๆและทำให้มหาลัยสะอาดทุกอาคารแล้วก็จะให้นักศึกษาทุกคนกลับมาเรียนใหม่เหมือนปกติถึงแม้ว่าทางโรงเรียนจะปิดโรงเรียนแต่ทางมหาลัยกรุงเทพก็ทำการสอนนักเรียนผ่านระบบออนไลน์ซึ่งคนที่ติดเชื้อก็สามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้แต่ถ้าเกิดว่าคนที่ไม่ติดเชื้อและถึงเวลาที่โรงเรียนเปิดให้นักเรียนที่ไม่ติดเชื้อกลับไปเรียนได้แล้วก็ต้องกลับไปเรียนใหม่และคนที่ติดเชื้อก็กลับตัวให้ครบและไปรอรับผลตรวจที่โรงพยาบาล

อาการของคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 คือเราจะมีไข้สูงมากเราจะไอและจะจำเยอะและนั่นจะทำให้เรารู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวต่างๆถ้าเกิดว่าใครที่มีอาการนี้แนะนำให้รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อหาผลตรวจว่าเรามีเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือไม่ถ้ามีก็ให้ทำการกลับตัวไม่ออกไปไหนแต่ถ้าไม่มีก็ให้กับตัวไปก่อนให้ครบ 14 วันและถ้ายังไม่มีเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เหมือนเดิม

และขอให้คนที่มีอาการถ้าเกิดว่าติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ขอให้บอกกับคนใกล้ตัวและเพื่อนๆของคุณเพื่อที่พวกเขาจะได้ป้องกันอย่างที่คุณก็จะได้รับการรักษาได้ทันเวลาห้ามใช้เหตุผลว่าต้องการจะอยู่กับเพื่อนเราสามารถอยู่กับเพื่อนได้แต่ต้องหลังจากที่เราหายจากการติดเชื้อไว้โควิด 19 แล้วเท่านั้น